การเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้แค่ในจินตนาการ
การเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้แค่ในจินตนาการหรือการพูดคุยกันเท่านั้น หากแต่ต้องลงมือทำจริงจัง ถ้าเราต้องการจะเก่งในสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการทำเว็บไซต์ การวาดภาพ การตัดต่อวีดีโอ หรือทักษะอื่นๆ เราต้องเริ่มต้นและมุ่งมั่นที่จะพัฒนามันให้ดีขึ้นในทุกวัน อย่างที่เราพูดได้ว่า 80% ของความสำเร็จมาจากการเริ่มต้นลงมือทำ แม้ในตอนแรกมันจะไม่ใช่สิ่งที่เราเก่งที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญก็คือเราพยายามที่จะพัฒนาและพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
![]() |
แนวคิดนี้ตรงกับทฤษฎี "Growth Mindset" หรือ "แนวคิดการเติบโต" ที่นักจิตวิทยาชื่อดัง Carol Dweck ได้เสนอเอาไว้ในหนังสือ Mindset: The New Psychology of Success โดยเธออธิบายว่า บุคคลที่มีแนวคิดการเติบโต (Growth Mindset) จะเชื่อว่าความสามารถและทักษะต่างๆ สามารถพัฒนาได้ผ่านการฝึกฝนและความพยายาม แทนที่จะเชื่อว่าทักษะหรือความสามารถนั้นๆ เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (Fixed Mindset) การเริ่มต้นทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน และฝึกฝนมันอย่างต่อเนื่อง แม้ในตอนแรกอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ความพยายามในแต่ละวันจะค่อยๆ ช่วยให้เราพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น การทำวีดีโอ ในช่วงแรกอาจจะรู้สึกไม่ค่อยเก่งและกลัวว่าเพื่อนหรือคนอื่นจะมาล้อเลียนเรา แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่เรากลัวส่วนใหญ่จะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลย เพราะตามหลัก Social Comparison Theory ของ Leon Festinger ซึ่งบอกว่า เรามักจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริง ทุกคนก็ไม่ได้มองเราในแบบที่เราคิด หากเราเริ่มต้นและทำมันต่อไปเรื่อยๆ เราก็จะพัฒนาทักษะนั้นๆ ไปจนถึงระดับที่เราคาดไม่ถึง สิ่งที่สำคัญคือการไม่หยุดและกล้าที่จะเริ่มต้น
และหากคุณรู้สึกว่ามีข้ออ้างมากมายเช่น "ฉันไม่เก่ง" หรือ "ไม่มีใครสนับสนุนฉัน" จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ข้ออ้างที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงการลงมือทำ การที่คนอื่นไม่สนับสนุนเราไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถเก่งได้ หรือถ้าเราไม่มีแรงบันดาลใจก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีวันทำสำเร็จ เพียงแค่ต้องเริ่มต้นทำก่อน แม้จะไม่ใช่การทำให้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกก็ตาม สิ่งสำคัญคือลงมือทำ
ทฤษฎี Self-Determination Theory ของ Edward Deci และ Richard Ryan ก็อธิบายได้ว่า ความสามารถในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งสำเร็จไม่ใช่แค่เรื่องของการมีแรงบันดาลใจ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการมีความตั้งใจที่จะทำและการมีความเชื่อมั่นในตัวเองที่จะสามารถพัฒนาไปได้ เราควบคุมการเรียนรู้และการเติบโตของเราเอง หากเรามีทัศนคติที่พร้อมจะเรียนรู้และพัฒนา เราก็จะสามารถพัฒนาตัวเองไปได้เรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นคนเก่งที่สุด
และสิ่งที่เราต้องพึงระวังคือการหลีกเลี่ยงข้ออ้างต่างๆ ที่จะทำให้เราอยู่ในสถานะที่ไม่พัฒนาต่อไป ตัวอย่างเช่น "ไม่มีเวลา" หรือ "ไม่ชอบทำ" สิ่งเหล่านี้เป็นแค่ข้ออ้างที่เราใช้เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจในตอนนี้ แต่ถ้าหากเราทำจริง เราจะเห็นว่าเวลาและความชอบมันสามารถปรับเปลี่ยนได้ เมื่อเราเริ่มทำสิ่งนั้นบ่อยขึ้น
หากการโพสต์หรือการแชร์สิ่งที่เราทำไปแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ต้องตกใจหรือท้อใจ ลองเปลี่ยนวิธีการนำเสนอหรือแพลตฟอร์มที่ใช้ดู หรือศึกษาว่าคนที่ทำสำเร็จในสิ่งที่เราทำ มีการใช้เทคนิคหรือวิธีการใดในการนำเสนอ การที่เรายังคงพัฒนาและปรับเปลี่ยนสิ่งที่ทำตามข้อมูลที่ได้รับ จะช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าได้มากขึ้น
ในท้ายที่สุด หากเรามีเป้าหมายที่จะเก่งในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้และทำอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญไม่ใช่การเก่งกว่าใคร แต่เป็นการเก่งขึ้นจากตัวเราเองในวันก่อน ความสำเร็จนั้นอยู่ที่การพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เก่ง เพราะในทุกๆ วันที่เราเริ่มทำ เราจะเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่ได้เก่งที่สุดในตอนแรก
สรุปง่ายๆ: อยากเก่งอะไรต้องเริ่มทำเลย อย่ารอให้พร้อมเพราะไม่เคยมีใครพร้อมตั้งแต่เริ่มต้น การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะทำให้เราพัฒนาขึ้นในทุกๆ วัน แม้ในวันที่รู้สึกไม่เก่ง ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น