การคิดที่แตกต่างจากการทำงานที่เป็นแบบเดิมๆ ที่เราเคยรู้จักกันมา

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สะท้อนถึงการทำงานและการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว ซึ่งจะต้องมีการคิดที่แตกต่างจากการทำงานที่เป็นแบบเดิมๆ ที่เราเคยรู้จักกันมา การทำงานแลกเงินนั้นเป็นแบบที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเราอยากจะเห็นตัวเองอยู่ในจุดที่ดีกว่านี้ ต้องถามตัวเองว่าเรากำลังทำงานเพื่อแลกเงินอยู่หรือเปล่า? หรือว่าเรากำลังสร้างอะไรที่ยั่งยืนกว่าการทำงานหนักทุกวัน?

ทฤษฎีที่สามารถเชื่อมโยงได้กับคำถามนี้คือ ทฤษฎีการสะสมสินทรัพย์ (Asset Accumulation Theory) ซึ่งแนะนำให้เราเปลี่ยนจากการทำงานเพื่อแลกเงินเป็นการสร้างสินทรัพย์ที่จะทำงานให้เราในระยะยาว เช่น การสร้างทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) หรือสินทรัพย์ที่สามารถสร้างรายได้ให้เราอย่างยั่งยืน ตัวอย่างเช่น การสร้างลิขสิทธิ์ผลงานที่มีมูลค่าและสามารถขายให้คนอื่นได้ แต่ไม่ขายหมดทั้งสิทธิ์ ซึ่งทำให้เรามีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์หรือการได้รับค่าลิขสิทธิ์ต่อเนื่องตลอดชีวิต

ในทฤษฎีนี้ สิ่งสำคัญคือการ คิดในระยะยาว และการเลือกทำงานที่สามารถช่วยให้เราสร้างสินทรัพย์ที่ยั่งยืน การทำงานฟรีหรือการทำงานที่ได้รับเงินน้อยในตอนแรก ก็อาจเป็นการลงทุนในอนาคตที่ทำให้เรามีโอกาสได้รับโปรเจคใหญ่หรือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ช่วยให้เราได้ลูกค้าใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้น

อีกหนึ่งทฤษฎีที่สามารถอธิบายการสร้างความสำเร็จในเรื่องนี้ได้คือ ทฤษฎีการลงทุนในมนุษย์ (Human Capital Theory) ซึ่งเสนอว่า การลงทุนในตัวเอง คือการพัฒนาความรู้และทักษะที่จะทำให้เรามีความสามารถที่สูงขึ้นในการทำงานและสร้างมูลค่าในตลาด โดยการลงทุนในมนุษย์นี้สามารถทำได้โดยการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นหรือการลงทุนในสิ่งที่เรารู้ว่ามันจะให้ผลตอบแทนในระยะยาว

ในทฤษฎีนี้ คุณค่าของงานไม่ได้อยู่ที่แค่ตัวผลงานที่เราทำ แต่ยังรวมถึง "คุณค่าของตัวเรา" หรือ "Branding" ที่เราสร้างขึ้นในสายตาของคนอื่น เมื่อคนรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่ให้ความรู้หรือมีมุมมองที่น่าสนใจและมีคุณค่า พวกเขาจะยินดีจ่ายเงินเพื่อซื้อบริการหรือสินค้าจากคุณ แม้ว่าเราจะไม่ได้ขายแค่ผลงาน แต่เราอาจจะกำลังขาย "ตัวตน" หรือ "ความคิด" ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตหรือธุรกิจของคนอื่นได้

ตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ทฤษฎีนี้คือ การสร้างธุรกิจหรือการสร้างสินทรัพย์ ที่สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องทำงานหนักเกินไป คุณสามารถสร้างสินทรัพย์ทางปัญญา เช่น หนังสือ, หลักสูตรออนไลน์, หรือแม้กระทั่งศิลปะที่สามารถให้รายได้เป็นระยะเวลานาน การขายงานหรือการสร้างงานในลักษณะนี้จะทำให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการสร้างสิ่งที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่จากการขายบริการหรือทำงานหนัก

โดยสรุป ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่การทำงานหนักแลกเงิน แต่ขึ้นอยู่กับการสร้างสินทรัพย์และการใช้เวลาว่างในการสร้างสิ่งที่มีมูลค่าต่อชีวิตของเราและคนอื่น เพื่อที่เราจะสามารถใช้มันในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว สิ่งสำคัญคือการ ชัดเจนในตัวเอง ว่าเราอยากได้อะไรจากงานที่เราทำ และไม่กลัวที่จะเลือกทำงานที่ให้โอกาสในการเติบโตในอนาคต ไม่ต้องกลัวที่จะให้มากก่อน เพราะในที่สุดคุณจะได้รับสิ่งที่คุณได้ให้ไปกลับมาหาคุณเสมอ

ความเห็นส่วนตัว:

เราต้องเริ่มมองงานที่เราทำไม่แค่เป็นการแลกเงิน แต่ต้องมองมันเป็นการสร้างสิ่งที่ยั่งยืนในชีวิต เช่น การสร้างแบรนด์ตัวเองหรือการลงทุนในความคิดและทรัพย์สินทางปัญญา งานที่ดีไม่ได้มีแค่คุณภาพเท่านั้น แต่ต้องมีคุณค่าของตัวคนทำด้วย ถ้าเราสามารถให้ใจและความรู้แก่คนอื่นอย่างจริงใจ คนอื่นก็จะยินดีที่จะให้สิ่งที่เราต้องการกลับมา อย่ามองแค่ผลตอบแทนในระยะสั้น แต่ให้มองไปที่สิ่งที่เราจะสร้างในอนาคต