โอกาส, ความพร้อม และความเก่ง: ทฤษฎีแห่งความสำเร็จที่ยั่งยืน
โอกาส, ความพร้อม และความเก่ง: ทฤษฎีแห่งความสำเร็จที่ยั่งยืน
หากถามว่าอะไรที่ทำให้คนบางคนประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิดในชีวิต? บางครั้งคำตอบที่ได้คือ "โชคดี" หรือ "บุญ" แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้นจริงๆ ความสำเร็จที่ยั่งยืนจริงๆ มาจากการเตรียมตัวและการแสดงความสามารถในเวลาที่เหมาะสม รวมทั้งการรู้จักมองหาโอกาสเมื่อมันมาถึง และความพร้อมที่จะรับมันไว้
เราจะเห็นตัวอย่างจากการที่ Win Metawin ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Prada ในลักษณะที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็น "การเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด" แต่หากพิจารณาดูจากมุมมองของการพัฒนาตัวเอง เราจะพบว่าเขาเตรียมพร้อมและฝึกฝนตนเองตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์หรือการแสดงทักษะในสาขาของตัวเอง เมื่อโอกาสมาถึงเขาก็พร้อมที่จะใช้มันได้เต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของโชคชะตาอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการเตรียมตัวและการทำงานหนักเพื่อความพร้อมในทุกๆ สถานการณ์
การจะเข้าใจลึกซึ้งถึงเหตุผลที่ทำให้บางคนประสบความสำเร็จในชีวิต เราควรจะพิจารณาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า "Theory of Opportunity and Readiness" (ทฤษฎีแห่งโอกาสและความพร้อม) ซึ่งเน้นการเข้าใจว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากโชคเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการที่เราฝึกฝนและเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อโอกาสที่เหมาะสมมาถึง ตัวอย่างเช่นการที่ Win Metawin ได้รับโอกาสจาก Prada นั่นแสดงให้เห็นว่าเมื่อโอกาสมาถึง เขามีทั้งความพร้อมและทักษะที่จะสามารถตอบสนองและทำงานร่วมกับแบรนด์หรูได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้, ถ้าหากเรามองถึงคำพูดของ Viktor Frankl นักจิตวิทยาชาวออสเตรียที่กล่าวว่า “มนุษย์ไม่ได้พบความหมายในชีวิตจากการหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด แต่จากการเข้าใจและเรียนรู้จากมัน” เราจะเห็นได้ว่า การพบกับความสำเร็จไม่ใช่แค่เรื่องของการหลีกเลี่ยงอุปสรรคหรือความเจ็บปวดเท่านั้น แต่เป็นการเรียนรู้จากความยากลำบากและการนำเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาใช้ในการพัฒนาตัวเอง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมในทุกๆ สถานการณ์
การมี "Growth Mindset" หรือ "แนวคิดการเติบโต" ตามแนวคิดของ Carol Dweck ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่เชื่อมโยงกับแนวคิดนี้ แนวคิดการเติบโตกล่าวว่า ความสามารถของเราสามารถพัฒนาได้ตลอดเวลา และความเก่งไม่ใช่สิ่งที่เรามีแค่ในตอนนี้ แต่มันคือการที่เราเรียนรู้และพัฒนาไปตลอดชีวิต การฝึกฝนและพัฒนาตนเองเป็นกระบวนการที่ไม่สิ้นสุด และนั่นคือสิ่งที่จะทำให้เรามีความเก่งที่ยั่งยืน
แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลที่หลากหลาย หลายคนอาจมองว่า การมีชื่อเสียงหรือ "การดัง" จะทำให้ชีวิตของเราประสบความสำเร็จได้ แต่คำถามสำคัญคือ เราต้องการ "ดัง" หรือ "เก่ง"? ความดังนั้นมักจะมาจากการสร้างภาพลักษณ์หรือการทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจ ซึ่งในบางครั้งมันอาจจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่คำถามคือ เราจะสามารถรักษาความดังนั้นได้หรือไม่? ในทางกลับกัน ความเก่งคือสิ่งที่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความเก่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคและยืนหยัดอยู่ได้ตลอดเวลา
การเรียนรู้จากความสำเร็จที่ยั่งยืน
หลายคนมักจะหาวิธีลัดเพื่อให้ "ดัง" แต่ในระยะยาวแล้วสิ่งที่ยั่งยืนคือ "ความเก่ง" การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และการที่จะเก่งในสิ่งใดสิ่งหนึ่งต้องอาศัยเวลาและความพยายามโดยไม่หวังทางลัด เมื่อคุณเก่งแล้ว โอกาสก็จะมาหาคุณเอง
ดังนั้น หากคุณอยากประสบความสำเร็จที่ยั่งยืน อย่ามองข้ามการฝึกฝนและพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน ความเก่งจะทำให้คุณยืนหยัดในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และจะไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำลายความสามารถที่คุณได้สร้างขึ้นมาได้
บทสรุปที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ได้:
- หากคุณอยากประสบความสำเร็จที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากการฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอย่างจริงจัง
- โอกาสจะมาถึงเมื่อคุณพร้อมที่จะรับมัน
- ความเก่งคือสิ่งที่ทำให้คุณยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ แม้โลกจะเปลี่ยนไป
- การ "ดัง" อาจเกิดขึ้นได้จากโชคหรือการสร้างภาพลักษณ์ แต่จะไม่ยั่งยืนหากไม่มีความเก่งอยู่เบื้องหลัง
ถ้าคุณตั้งใจที่จะพัฒนาและฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ โอกาสจะมาถึงในเวลาที่เหมาะสม และเมื่อคุณพร้อม, ความสำเร็จที่ยั่งยืนจะเป็นของคุณเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น