เพลงชีวิตที่เราควบคุมไม่ได้

เต็มที่...แล้วไง?

ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกหมดพลังในการใช้ชีวิต เป็นคำถามง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ว่า "เกิดมาทำไมวะ?" เราหมุนวนในความคิด ว่าความสุขที่คนพูดถึงกันนั้นมันหน้าตาเป็นอย่างไร เราหลงลืมไปแล้วว่ามันคืออะไร หรือบางทีเราอาจไม่เคยเข้าใจมันเลยตั้งแต่แรก

แต่แล้ว ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา...ภาพของ Travis Barker มือกลองผู้ทรงพลัง ที่ไม่ใช่แค่ตีกลอง แต่ เขาตีชีวิต ด้วยจังหวะและพลังทั้งหมดที่มี ความดิบ เถื่อน แต่กลับงดงามในแบบของตัวเอง ทุกการกระแทกกลองคือการยืนยันว่าเขาใช้ชีวิต "เต็มที่"

มันพาเราย้อนกลับไปสู่ความทรงจำวัยเรียนที่อบอุ่น นึกถึงบรรยากาศบูมคณะ เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มตอนแห่เชือก และเสียงรุ่นพี่ที่ตะโกนใส่หน้าอย่างจริงใจว่า "เต็มที่ดิน้อง!"

ตอนนั้นเราถามตัวเองว่า "เต็มที่ยังไง?" เราพยายาม "เต็มที่" กับโปรเจคต่างๆ ทุ่มพลังทั้งหมดที่มี แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ใกล้เคียงกับที่หวังไว้ มันเหมือนคำพูดที่ลอยผ่านหู แต่ไม่ได้ซึมลงหัวใจ

เข้าใจคำว่า "เต็มที่"

เมื่อวันหนึ่งเราเข้าใจว่า "เต็มที่" ไม่ได้หมายถึงการได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ แต่คือการ ทำทุกอย่างที่ทำได้ในตอนนั้น ด้วยความตั้งใจจริง โดยไม่ต้องเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะผิดหวัง เราก็ได้ทำดีที่สุดแล้ว

แต่ชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เมื่อเรา "เต็มที่" แต่กลับผิดหวัง ความรู้สึกที่หลั่งไหลเข้ามาคือ ความโกรธ ความเสียใจ และคำถามที่กัดกินจิตใจว่า...ทำไมวะ?

ตอนนี้เรารู้แล้วว่าชีวิตมันให้เราเลือกแค่สองทาง

  1. จมอยู่กับความผิดหวัง ร้องไห้คร่ำครวญ แล้วปล่อยให้ชีวิตวนอยู่ที่เดิม
  2. ลุกขึ้นเดินหน้าต่อ บอกตัวเองว่า "ช่างแม่ง!" เพราะเราทำได้ดีที่สุดแล้ว

เพลงชีวิตที่เราควบคุมไม่ได้

ในทุกครั้งที่รู้สึกว่าหมดกำลังใจ เรากลับไปเปิดดู Travis Barker ในขณะที่เขาตีกลองเหมือนสั่งลาจักรวาล มันคือเครื่องเตือนใจว่าชีวิตมันไม่ต้องสมบูรณ์แบบ ขอแค่เรา "เต็มที่!" กับสิ่งที่เรามีในตอนนั้น

สุดท้ายแล้ว เราไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ของทุกอย่างได้ แต่เราเลือกที่จะ "ปล่อยวาง" ความคาดหวัง และยอมรับมันด้วยใจสงบ

"เต็มที่แล้ว...ช่างแม่ง" ไม่ใช่แค่คำพูด แต่มันคือปรัชญา คือการใช้ชีวิตที่เราไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำไป และพร้อมจะก้าวเดินต่อไปเสมอ แม้จังหวะชีวิตจะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนจังหวะกลอง แต่จังหวะนั้นจะเป็นของเราเสมอ




ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม