เราเคยสงสัยกันไหมว่า ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งที่บอกว่าเป็น asexual หรือไม่มีความต้องการทางเพศเลย จะสามารถชอบคนที่มีเพศสภาพอื่นๆ อย่างตุ๊ด เกย์ ทอม ดี้ ได้ไหม?

เราเคยสงสัยกันไหมว่า ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งที่บอกว่าเป็น asexual หรือไม่มีความต้องการทางเพศเลย จะสามารถชอบคนที่มีเพศสภาพอื่นๆ อย่างตุ๊ด เกย์ ทอม ดี้ ได้ไหม? หรือมันเป็นแค่ความสับสนในตัวเอง? คำถามนี้อาจฟังดูแปลก แต่มันกระตุ้นให้เราคิดถึงความหลากหลายของความรู้สึก ความรัก และการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ที่ซับซ้อนกว่าที่เรามักจะแปะป้ายให้มันง่ายๆ

เราอยากเริ่มจากแนวคิดในภาพยนตร์เรื่อง Her ของ Spike Jonze ซึ่งเล่าเรื่องของชายคนหนึ่งที่ตกหลุมรักระบบปฏิบัติการ AI นั่นอาจจะฟังดูเกินจริง แต่สิ่งที่หนังทำให้เราเห็นคือ ความรักนั้นไม่ได้ผูกติดอยู่กับร่างกายหรือความต้องการทางเพศเสมอไป มันอาจเกิดจากความเชื่อมโยงทางอารมณ์ การพูดคุยที่เข้าใจกัน หรือแค่การอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกสบายใจ นี่คือความเป็นไปได้ที่คนที่นิยามตัวเองว่า asexual จะชอบใครสักคนโดยไม่ได้มีแรงดึงดูดทางเพศ แต่เชื่อมโยงด้วยปัจจัยอื่นที่ลึกซึ้งกว่า

เรามองย้อนกลับไปที่ปรัชญาของ Jean-Paul Sartre และ Simone de Beauvoir คู่รักนักปรัชญาที่เคยตั้งคำถามว่า ความรักต้องมีเงื่อนไขไหม หรือเราสามารถรักใครสักคนได้โดยไม่ต้องการครอบครอง? Asexuality อาจเป็นตัวอย่างของการรักที่ไม่ต้องการ “ครอบครอง” ในเชิงร่างกาย แต่ยอมรับในความเป็นตัวตนของอีกฝ่าย เราคิดว่า Sartre คงชอบประเด็นนี้ เพราะเขาเชื่อในเสรีภาพของมนุษย์และการเป็นตัวของตัวเอง

แล้วพอพูดถึงตุ๊ด เกย์ ทอม ดี้ มันก็โยงไปถึงคำถามเรื่องเพศสภาพและเพศวิถีอีกชั้นหนึ่ง ความหลากหลายเหล่านี้เป็นเหมือนผลงานศิลปะของ Jackson Pollock ที่กระจัดกระจายแต่เต็มไปด้วยจังหวะและความหมาย มันไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ดึงดูดสายตาและหัวใจ ถ้าผู้หญิง asexual ชอบคนที่มีเพศสภาพแตกต่างออกไป นั่นอาจเป็นเพราะพวกเขารู้สึกถึงจังหวะที่ลงตัวในความสัมพันธ์ มากกว่าเรื่องเพศสภาพหรือเพศวิถีโดยตรง

เรายังจำได้ที่อ่าน The Fault in Our Stars ของ John Green ซึ่งพูดถึงความรักในสถานการณ์ที่ดูเป็นไปไม่ได้เลย ตัวเอกสองคนที่ป่วยหนักกลับพบความสุขเล็กๆ ในกันและกัน บางทีความรักไม่ต้องการคำอธิบาย มันแค่เกิดขึ้นในหัวใจที่เปิดรับ

ดังนั้น คำถามที่ว่าผู้หญิง asexual จะชอบตุ๊ด เกย์ ทอม ดี้ ได้ไหม? คำตอบอาจจะไม่ได้สำคัญเท่าเหตุผลที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนั้น สิ่งที่สำคัญคือ เราเข้าใจไหมว่าความรักและความสัมพันธ์มันกว้างกว่าที่เราจะนิยามมันเป็นแค่ความต้องการทางเพศหรือไม่?