เราเคยสงสัยกันไหมว่า ถ้าคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนสนิทของเรากำลังแอบรักเราอยู่ มันจะดูออกยังไงนะ
มันคล้ายๆ กับการดูภาพวาดของ Monet ครั้งแรก คุณอาจมองว่าเป็นแค่ภาพธรรมดาๆ ของบึงน้ำ แต่พอจ้องนานขึ้น ทุกคนจะเริ่มเห็นความลึกในรายละเอียด เห็นแสงสะท้อนที่ซ่อนอยู่ เห็นจังหวะการวาดที่บอกเล่าความรู้สึกของศิลปิน มันเหมือนกับเพื่อนของเราที่อาจกำลังสื่อสารอะไรบางอย่างกับเราผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน
สมมติว่าเขาชอบชวนเราไปวิ่งตอนเช้า ทั้งที่เขาไม่ใช่คนออกกำลังกายเลยสักนิด วิ่งได้แค่สองรอบสนามแล้วหายใจหอบเหมือนกำลังพยายามเอาชีวิตรอด แต่มันก็ไม่เคยหยุดเขาจากการยืนยันว่า "มาเถอะ สนุกดี" ถ้าไม่ใช่ความรัก แล้วมันคืออะไร
บางคนอาจพูดว่าความรักคือการเสียสละ แต่เราว่ามันคือการยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เราเข้ากันได้ในจังหวะชีวิต เรานึกถึงหนังอย่าง When Harry Met Sally ที่ตัวละครสองคนที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย แต่พอเวลาผ่านไป ความรู้สึกมันก็ค่อยๆ งอกเงยเหมือนต้นไม้ที่เราไม่รู้ว่าเมล็ดมันตกอยู่ตรงไหน
หรือบางทีเขาอาจจำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราพูดถึงเมื่อสามเดือนก่อน เช่นว่าเราชอบกินขนมปังแบบไหน หรือเราชอบเพลงของ Simon & Garfunkel แล้ววันหนึ่งเขาก็เปิดเพลง "The Sound of Silence" ในรถ โดยไม่ได้พูดอะไรเลย เราว่ามันเหมือนกับการที่เขาแสดงให้เห็นว่า "ฉันฟังเธออยู่นะ"
แล้วทุกคนรู้ไหมว่า ทำไมมันยากจังที่จะจับได้ว่าเพื่อนสนิทแอบรักเรา เพราะมันไม่ได้ดูหวือหวาเหมือนในหนังรักหวานแหวว มันไม่ใช่การจูบกลางสายฝนหรือการบอกรักบนเวทีใหญ่โต แต่มันอยู่ในการเลือกที่นั่งข้างเราเสมอ อยู่ในการปล่อยให้เราบ่นเรื่องเดิมๆ โดยไม่เบื่อ หรือในมุกตลกแย่ๆ ที่เขาพูดแล้วเราขำ
ถ้าความรักเป็นเหมือนปรัชญาของ Nietzsche ที่บอกว่าเราต้องมองเข้าไปในความลึกของจิตวิญญาณเพื่อค้นพบตัวเอง เราคิดว่าความรักในแบบเพื่อนสนิทก็คือการมองเข้าไปในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ของอีกฝ่ายและเข้าใจว่า "เราอยู่ตรงนี้เพื่อกันและกันเสมอ"
บางทีคำตอบของคำถามนี้อาจไม่ต้องการการถกเถียงอะไรมากมาย เพราะถ้าทุกคนรู้สึกว่ามีใครบางคนที่พร้อมอยู่ตรงนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คอยส่งข้อความมาในวันที่เรารู้สึกแย่ หรืออยู่ข้างเราในวันที่ไม่มีใคร ทุกคนก็อาจรู้คำตอบอยู่แล้วในใจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น