เราเคยสงสัยกันไหมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสนิทที่แตกหักไปแล้วจะมีวันกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม
เราเคยสงสัยกันไหมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสนิทที่แตกหักไปแล้วจะมีวันกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม หรือมันจะเปลี่ยนไปเป็นความทรงจำในอดีตที่เราไม่สามารถแตะต้องได้อีก ความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดอย่างลึกซึ้งจนดูเหมือนจะไม่มีอะไรทำลายได้ ทำไมถึงกลายเป็นเรื่องที่แค่สบตากันก็อึดอัด เราอยากชวนทุกคนคิดถึงเรื่องนี้ผ่านสายตาของภาพยนตร์ หนังสือ และปรัชญาที่เคยตอบคำถามคล้ายๆ กัน
The Social Network ภาพยนตร์ที่เล่าถึงการก่อตั้ง Facebook สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับเพื่อนสนิทอย่างเอดูอาร์โด ซาเวริน จากคนที่ร่วมสร้างความฝันเดียวกัน แต่สุดท้ายกลายเป็นศัตรูทางกฎหมายเพราะผลประโยชน์และความเข้าใจผิด มันน่าสนใจตรงที่หนังไม่ได้บอกว่าใครผิดหรือถูก แต่แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์พังเพราะ "ความทะเยอทะยานที่ไม่สมดุล" เราเห็นความเจ็บปวดในสายตาเอดูอาร์โด เห็นความอ้างว้างของมาร์คที่ยืนอยู่บนยอดเขาเพียงลำพัง มันทำให้เราสงสัยว่า บางครั้งมิตรภาพที่พังไป อาจไม่ได้ต้องการการให้อภัย แต่มันอาจต้องการแค่พื้นที่ให้ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่าพวกเขาเปลี่ยนไปแล้ว
ปรัชญาของเฮเกลพูดถึง "การต่อสู้เพื่อการยอมรับ" (struggle for recognition) ว่าคนเรามักต้องการให้ตัวเองถูกมองเห็นในแบบที่เราคิดว่าควรจะเป็น บางทีนี่แหละที่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสนิท เราต่างคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนแบบที่เราเคยรู้จัก และเมื่อเขาเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ความผิดหวังก็เข้ามาแทนที่ เราคิดถึงคำพูดในหนังเรื่อง Good Will Hunting ที่อาจารย์ฌอนบอกวิลว่า "คุณไม่รู้จักคนอื่นจริงๆ จนกว่าคุณจะยอมรับข้อบกพร่องของพวกเขา" มันฟังดูง่าย แต่ในความสัมพันธ์จริงๆ การยอมรับข้อบกพร่องของเพื่อนคือศิลปะที่ต้องฝึกฝน
หนังสือ The Little Prince ของอองตวน เดอ แซงเตกซูเปรี ก็พูดถึงความสัมพันธ์ในลักษณะที่เราอาจนำมาเปรียบเทียบได้ เจ้าชายน้อยพูดกับสุนัขจิ้งจอกว่า "เราจะไม่มีวันเข้าใจกันจนกว่าเราจะสร้างสายสัมพันธ์ขึ้น" แต่ไม่มีใครบอกเราว่าสายสัมพันธ์ที่ถูกทำลายไปแล้ว จะสร้างใหม่ได้อย่างไร หรือควรสร้างใหม่หรือไม่ สุนัขจิ้งจอกอาจเลือกอยู่ในความทรงจำที่เจ้าชายน้อยจากไป มากกว่าที่จะเสี่ยงสร้างความสัมพันธ์ใหม่ที่อาจพังลงอีกครั้ง
เรายังนึกถึงกีฬา เช่น การแข่งขันฟุตบอล ที่เพื่อนร่วมทีมบางครั้งทะเลาะกันกลางสนามเพราะแรงกดดัน หรือเพราะความผิดพลาดของอีกฝ่าย แต่พวกเขาก็ต้องกลับมาร่วมมือกันเพื่อชนะเกม เช่นเดียวกับชีวิตจริง เราอาจต้องการ "เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า" เพื่อดึงความสัมพันธ์ที่แตกหักกลับมา ถ้าไม่มีเป้าหมายแบบนั้น มันก็เหมือนการเล่นเกมที่ไม่มีใครทำแต้ม
คำถามที่ทุกคนต้องตอบตัวเองคือ ความสัมพันธ์ที่แตกไปแล้วควรได้รับโอกาสครั้งที่สองหรือเปล่า มันขึ้นอยู่กับว่าเราให้คุณค่าอะไรกับคนคนนั้น เราเคยคิดว่าคำขอโทษเป็นเรื่องใหญ่ แต่ความจริงมันอาจเล็กน้อยเทียบไม่ได้กับ "ความตั้งใจที่จะเริ่มใหม่" บางครั้งเราต้องยอมรับว่าเพื่อนบางคนไม่ได้หายไปจากชีวิตเรา เขาแค่ย้ายไปอยู่ในบทหนึ่งของหนังสือเล่มใหญ่ ที่ยังคงมีหน้าถัดไปให้เราเขียนต่อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น