ความหมายของชีวิตในยุคโซเชียล: สร้างตัวตนให้โลกจำ

"จงเป็นจ้าวแห่งความเป็นไปได้: สู่โลกใหม่ที่คุณสร้างเอง"
โลกที่เราอยู่ในวันนี้: จุดเปลี่ยนและความกลัว

ในยุคดิจิทัลที่ทุกสิ่งหมุนเร็วเหมือนอนุภาคในเครื่องเร่งอนุภาคใหญ่ (Large Hadron Collider) เราทุกคนต่างเผชิญกับทางเลือกที่หลากหลาย การพัฒนาอย่างรวดเร็วของโซเชียลมีเดียทำให้เกิดโลกใหม่ที่เชื่อมโยงผู้คนและไอเดียอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่กลับมีหลายคนที่เลือกจะไม่ "ลอง" สิ่งใหม่ๆ เพราะกลัวความล้มเหลวหรือความเสียเวลา ทั้งที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้คือโอกาสที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ

แกรี่ วี ใน Crush It! ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า คนที่ปฏิเสธโซเชียลมีเดียใหม่ๆ ด้วยเหตุผลว่า "กลัวว่าจะล้มเหลว" นั้นมักลืมไปว่า โอกาสในโลกนี้คือการทดลองก่อนที่จะตัดสิน เราไม่ได้เกิดมาพร้อมชื่อเสียงหรือความสำเร็จ ดังนั้น การเริ่มต้นไม่มีอะไรจะเสีย และการทดลองใช้โซเชียลใหม่ๆ อาจเป็นการเปิดประตูสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินคาด

ทฤษฎีและบทเรียนจากปรัชญา

ปรัชญาตะวันตก โดยเฉพาะแนวคิดของ Existentialism ของฌอง-ปอล ซาร์ตร์ บอกว่า มนุษย์เราถูกกำหนดให้ "เลือก" และการเลือกคือสิ่งที่สร้างตัวตนเรา ซาร์ตร์เคยกล่าวไว้ว่า “Man is nothing else but what he makes of himself.” หากเราไม่เลือก เรากำลังปฏิเสธโอกาสที่จะนิยามชีวิตของตัวเอง เช่นเดียวกัน หากเราปฏิเสธโซเชียลใหม่ๆ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เรากำลังปฏิเสธโอกาสที่เราจะสร้างตัวเองในพื้นที่ที่มีคนอยู่มากมาย

ตัวอย่างจากกีฬาที่สร้างแรงบันดาลใจ

ลองมองไปที่นักบาสเกตบอลชื่อดังอย่างไมเคิล จอร์แดน ก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักกีฬาระดับตำนาน เขาเคยถูกตัดชื่อออกจากทีมโรงเรียน แต่เขาไม่ได้หยุด เขากลับมองความล้มเหลวเป็นโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองและทดลองวิธีใหม่ๆ ในการเล่น จอร์แดนกล่าวว่า “I’ve failed over and over and over again in my life. And that is why I succeed.” การลองและล้มเหลวทำให้เขาค้นพบจุดแข็งและสร้างสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเอง เช่นเดียวกันกับโลกดิจิทัล การลองสิ่งใหม่ไม่ใช่การเสียเวลา แต่เป็นการค้นหาว่าอะไรเหมาะสมกับตัวเรา

โลกดิจิทัล: พื้นที่แห่งโอกาส

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การสร้างชื่อเสียงในวันนี้คือการสร้างพื้นที่ในโซเชียลมีเดีย การมีตัวตนที่ชัดเจนสามารถเปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาให้กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในสายงานของตัวเองได้ ในยุคนี้ คนที่เข้าใจแพลตฟอร์มใหม่ก่อนคนอื่นสามารถสร้างความได้เปรียบอย่างมหาศาล TikTok เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด หลายคนที่เริ่มต้นจากการ "ไม่ถนัด" วิดีโอ ได้กลายเป็นครีเอเตอร์ที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองในเวลาไม่นาน

แต่บางคนกลับปฏิเสธด้วยข้ออ้าง เช่น "ไม่ถนัด" หรือ "ไม่ชอบ" ซึ่งเหมือนกับการที่คนไม่ยอมออกเดินทางเพราะกลัวจะหลงทาง ทั้งที่จริงแล้วการหลงทางคือวิธีที่ดีที่สุดในการค้นพบเส้นทางใหม่ๆ

เราอยู่ในยุคที่ "งานประจำ" อาจกลายเป็น "งานจองจำ"

มีคำถามที่หลายคนมักถามว่า ทำไมไม่เลือกทำ "งานประจำ"? คำตอบง่ายๆ คือ สำหรับบางคน งานประจำคือกรอบที่จำกัดความคิดสร้างสรรค์และเสรีภาพทางความคิด หลายคนพบว่าการทำตามคำสั่งโดยไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในงานที่พวกเขาไม่รัก คือการใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่มีความหมาย

นี่คือสิ่งที่นักปรัชญาอย่างวิคเตอร์ แฟรงเคิล ผู้เขียน Man’s Search for Meaning เน้นย้ำ: มนุษย์ต้องการความหมายในชีวิต แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด การแสวงหาความหมายคือพลังที่ทำให้เราลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับอุปสรรคได้อย่างแท้จริง

ความเห็นส่วนตัว

สำหรับทุกคนที่ยังลังเล เราอยากบอกว่า ไม่มีใครเกิดมาพร้อมกับความพร้อมหรือความสำเร็จ ทุกสิ่งต้องเริ่มต้นจากการ "ลอง" และ "ล้ม" การปฏิเสธโอกาสที่จะทดลองเท่ากับการปิดประตูโอกาสในอนาคต สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ และทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้

การพัฒนาตัวเองในยุคนี้ไม่ใช่แค่การสร้างผลงาน แต่คือการสร้างชื่อให้คนอื่นจำได้ในสิ่งที่เราทำ จงสร้างงานของคุณให้ดีเสียก่อน แล้วคนที่ชอบงานของคุณจะตามมาเอง


---


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม