ทำไมเราถึงปล่อยให้ตัวเองอดทนกับบางสิ่งจนถึงจุดที่เรียกว่า “ระเบิด”?
จากตอนที่แล้ว...
เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเราถึงปล่อยให้ตัวเองอดทนกับบางสิ่งจนถึงจุดที่เรียกว่า “ระเบิด”? อดทนตั้งแต่ระดับ 1 จนพุ่งทะลุถึงระดับ 10 แล้วมานั่งเสียใจทีหลังว่า "รู้งี้พูดไปตั้งแต่แรกก็ดี" แต่ก็นั่นแหละ...เราทุกคนรู้ดีว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น การกล้าเผชิญหน้ากับปัญหาเล็กๆ ตอนมันเพิ่งเกิดขึ้นต้องใช้ความกล้ามากกว่าที่คิด
ลองนึกถึงภาพยนตร์ The Dark Knight ดูสิ ตอนที่อัลเฟรดพูดกับบรูซ เวย์นว่า “บางคนไม่ได้ทำเพราะต้องการอะไร แค่ต้องการเห็นโลกไหม้เท่านั้นเอง” การอดทนจนเกินไปในบางสถานการณ์อาจทำให้เราเป็นเหมือน "ฮีโร่ที่ไม่เคยรู้จักตัวเอง" ทำดีเท่าไหร่ก็เหมือนเทน้ำลงทราย เพราะเราปล่อยให้คนอื่นคิดว่าความดีของเรามัน "ไม่มีขอบเขต" และเมื่อถึงเวลาระเบิด เราเองกลับกลายเป็นวายร้ายในสายตาของทุกคน
ปรัชญาญี่ปุ่นมีแนวคิดหนึ่งที่เรียกว่า "อิคิไก" (Ikigai) ซึ่งแปลคร่าวๆ ได้ว่า “เหตุผลในการมีชีวิตอยู่” เป็นการผสมผสานระหว่างสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราถนัด สิ่งที่โลกต้องการ และสิ่งที่ทำให้เรามีรายได้ ถ้าเปรียบเรื่องนี้กับความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน อิคิไกจะสอนว่า อย่าทำอะไรที่ "ไม่บาลานซ์" เพราะมันจะทำให้เราสูญเสียตัวตน
สมมติว่าเรายอมตั้งแต่ระดับ 1 ยอมแม้กระทั่งเรื่องที่เล็กที่สุด เช่น เพื่อนมาสาย 5 นาทีแล้วไม่บอก หรือคนรักไม่ฟังเวลาที่เราพูดอะไรสำคัญๆ เราปล่อยผ่านเพราะคิดว่า "เรื่องแค่นี้เอง ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่" แต่นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของปัญหา ระดับ 1 สะสมเป็น 2 เป็น 5 จนถึง 10 พอถึงตอนนั้น การสื่อสารจะไม่ใช่แค่ “บอกความรู้สึก” แต่มันกลายเป็นการปลดปล่อยอารมณ์โกรธที่สะสมมาทั้งหมด
แต่ถ้าเราเริ่มสื่อสารตั้งแต่ระดับ 1 ล่ะ? ใช่ มันอาจจะดูเป็นการ "ปะทะ" ตั้งแต่แรก แต่เชื่อไหมว่ามันช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ตัวอย่างในวรรณกรรมญี่ปุ่น เช่น "โฮคุไซ" (Hokusai) ที่มักวาดภาพคลื่นยักษ์ เรามักมองว่าคลื่นคือสัญลักษณ์ของความโกลาหลและพลัง แต่ในปรัชญาญี่ปุ่น คลื่นก็เป็นตัวแทนของ "การเปลี่ยนแปลง" และ "การไหลเวียน" เหมือนการแก้ปัญหาเล็กๆ ทันทีที่มันเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้มันกลายเป็นคลื่นยักษ์ที่ซัดทุกอย่างจนพัง
ในกีฬาก็เช่นกัน สมมติเราดู เทนนิส ถ้าคุณเคยเห็นนักเทนนิสระดับโลก เช่น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ เขาจะไม่ปล่อยให้อารมณ์เสียสะสมจนส่งผลต่อเกม ถ้าเขาเสียแต้ม เขาจะรีบจัดการความรู้สึกนั้นทันที ไม่ใช่ปล่อยให้มันก่อตัวจนพังทั้งแมตช์
เราว่า ความอดทนเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่มัน "ไม่ทำร้ายเรา" การยอมให้คนอื่นมองข้ามความรู้สึกของเราโดยไม่พูดออกไป ไม่ใช่ความเสียสละ แต่เป็นการทำลายตัวเองในระยะยาว สิ่งที่ทุกคนควรทำคือเรียนรู้ที่จะ "สื่อสารอย่างฉลาด" ไม่ใช่แค่พูดตรงๆ แต่พูดอย่างมีจังหวะ เหมือนคนเล่นดนตรีแจ๊สที่รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องดังและเมื่อไหร่ต้องเบา
ท้ายที่สุด การสื่อสารคือศิลปะที่ต้องฝึกฝน ไม่ใช่แค่เพื่อแก้ปัญหา แต่เพื่อสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งระหว่างกัน และบางครั้งการเผชิญหน้ากับปัญหาเล็กๆ ทันทีที่มันเกิด อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราไม่ต้องแบก "ระเบิดเวลา" ไว้ในชีวิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น