เราเคยสงสัยกันไหมว่า ความงามในงานศิลปะของ Alphonse Mucha นั้นมันมาจากไหน

เราเคยสงสัยกันไหมว่า ความงามในงานศิลปะของ Alphonse Mucha นั้นมันมาจากไหน ทำไมถึงได้งดงามอ่อนช้อยจนเหมือนกับว่ามันถูกหยิบยืมมาจากโลกแห่งเทพนิยาย แถมยังให้ความรู้สึกเหมือนมีดนตรีคลอเบาๆ อยู่ในภาพทุกครั้งที่เรามอง เหมือนเวลาเราเดินตลาดแล้วได้ยินแม่ค้าร้องเพลงลูกทุ่งไปด้วยขายของไปด้วย ซึ่งทุกคนต้องยอมรับว่ามันมีเสน่ห์ในแบบที่ยากจะเลียนแบบได้

Mucha นั้นเป็นศิลปินที่ถือว่าเป็นตัวแทนของศิลปะแบบ Art Nouveau โดยเฉพาะกับงานโปสเตอร์ที่เราคุ้นเคยกันดี พวกภาพสาวงามผมยาวพลิ้วไหวเหมือนสายลม ร่างกายที่ถูกโอบล้อมด้วยเส้นสายโค้งเว้าราวกับต้นไม้พันกัน และรายละเอียดเล็กๆ อย่างดอกไม้ ใบไม้ หรือแม้แต่ลวดลายเรขาคณิตที่ดูยังไงก็ไม่เบื่อ แอบกระซิบว่าถ้าทุกคนเคยเห็นปฏิทินไทยปีใหม่ที่มีภาพวาดสไตล์หวานๆ นั่นแหละ กลิ่นอายเดียวกับงานของ Mucha เลย

เราเคยอ่านเจอมาว่า Mucha ได้แรงบันดาลใจจากหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือธรรมชาติ เขาชอบสังเกตต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้แบบคนจริงจัง ไม่ใช่แค่เดินผ่านแล้วคิดว่า "อ้อ นี่ดอกกุหลาบ" แต่เขาจะมองจนรู้เลยว่ามันบานกี่กลีบ มีเส้นอะไรในใบไม้บ้าง เหมือนเวลาเราดูซีรีส์แล้วพยายามจดจำทุกดีเทลของตัวละครหลักเพราะกลัวเพื่อนสปอยล์ในกลุ่มไลน์

นอกจากนี้ งานของเขายังอาจได้รับแรงบันดาลใจจาก Gustav Klimt ศิลปินอีกคนในยุคนั้นที่มีสไตล์คล้ายกัน เราเดาว่าทั้งสองคนน่าจะมีความสัมพันธ์แบบ "เฮ้ย งานแกเท่ดีว่ะ ขอเอาไปเป็นไอเดียหน่อยนะ" แล้วก็หัวเราะฮาฮิแบบเพื่อนซี้ในยุคศตวรรษที่ 19

แต่งานของ Mucha ไม่ได้มีแค่ความงามแบบพื้นๆ ที่ดูแล้วจบกัน เขาสื่อถึงความฝัน ความหวัง และความเป็นอิสระในยุคที่ยุโรปกำลังเปลี่ยนแปลง เขาเป็นเหมือนนักเขียนที่เขียนนิยายแฟนตาซีผ่านลายเส้นและสีสัน เหมือนเวลาเราฟังเพลงโปรดแล้วรู้สึกว่า "นี่มันชีวิตฉันชัดๆ"

สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ Mucha คือความใส่ใจในรายละเอียด ลองคิดดูสิ ทุกคน เวลาทำงานละเอียดขนาดนั้น มันต้องมีสมาธิระดับไหน เราเคยลองวาดเส้นตรงเล่นๆ แล้วเบี้ยวแบบไม่น่าให้อภัยจนเพื่อนขำ แต่ Mucha กลับทำทุกเส้นให้มีชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนเขามีสายตาแบบเหยี่ยวแถมมือไม่สั่นเหมือนตอนเรากินกาแฟเยอะเกิน

ถ้าถามว่าทุกวันนี้เราจะเรียนรู้อะไรจาก Mucha ได้บ้าง เราว่าคงเป็นเรื่องของการมองหาแรงบันดาลใจในสิ่งรอบตัว ธรรมชาติที่เรามองเห็นทุกวันอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของงานศิลปะชิ้นเอกก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าดอกหญ้าข้างทางที่ดูไม่มีอะไร อาจเป็นดอกไม้ที่ปรากฏอยู่ในภาพวาดที่คนทั้งโลกชื่นชม

สุดท้ายแล้ว เราว่า Mucha เป็นตัวอย่างที่ดีของการที่ศิลปะไม่ได้แค่เพื่อความสวยงาม แต่มันยังสามารถเป็นสะพานที่เชื่อมคนกับความรู้สึกที่ลึกซึ้งได้ งานของเขายังคงสร้างแรงบันดาลใจให้ศิลปินยุคใหม่ไม่รู้จบ เหมือนเวลาทุกคนดูหนังดีๆ แล้วเดินออกจากโรงด้วยความรู้สึกว่า “ฉันต้องทำอะไรสักอย่างกับชีวิตแล้วล่ะ”