เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมพวกเราถึงหมกมุ่นกับการเคาท์ดาวน์ปีใหม่กันขนาดนี้ ทั้งที่เอาจริงๆ มันก็แค่ตัวเลขในปฏิทินที่เปลี่ยนไป
เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมพวกเราถึงหมกมุ่นกับการเคาท์ดาวน์ปีใหม่กันขนาดนี้ ทั้งที่เอาจริงๆ มันก็แค่ตัวเลขในปฏิทินที่เปลี่ยนไป วันธรรมดาที่เรายัดเยียดให้มันพิเศษขึ้นมาเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลานั้นมันมีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดทุกคนให้มารวมตัวกัน นับถอยหลังด้วยความหวังว่า "ปีนี้ต้องดีกว่าปีที่แล้วแน่ๆ" ทั้งๆ ที่เราอาจยังไม่ได้แก้ไขสิ่งที่ค้างคาใจจากปีที่แล้วเลย
ลองนึกถึงหนังเรื่อง Lost in Translation ของ Sofia Coppola ดูสิ ฉากที่บิล เมอร์เรย์ กับสการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สันนั่งอยู่ในบาร์ญี่ปุ่น มองโลกด้วยความรู้สึกว่างเปล่าแต่งดงามแบบบอกไม่ถูก เราอาจไม่ต้องการงานเลี้ยงหรูหรา ดอกไม้ไฟ หรือเสียงเพลง EDM ดังกระหึ่มเพื่อเริ่มต้นปีใหม่ บางทีการได้หยุดอยู่กับตัวเอง มองดูชีวิตที่ผ่านมาแบบสงบนิ่งเหมือนตัวละครสองคนนี้ อาจเป็นสิ่งที่ให้พลังงานใหม่กับเราได้มากกว่า
การเคาท์ดาวน์มันมีข้อดีนะ มันทำให้เราได้รู้สึกว่า “เรารอดมาได้อีกปีแล้ว!” เหมือนนักกีฬาที่ผ่านเส้นชัยวิ่งมาราธอน พอถึงเส้นชัยปุ๊บ ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน เราก็รู้สึกได้ถึงชัยชนะ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แต่ข้อเสียของมันคืออะไร? คือเราดันเอาชีวิตไปผูกกับเส้นชัยปลอมๆ นั่นแหละ ทุกคนรอวันปีใหม่เพื่อเริ่มต้นใหม่ แต่ลืมไปว่าจริงๆ แล้วเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที เหมือนคำพูดของวอลท์ วิทแมนในบทกวี Leaves of Grass ที่ว่า “ชีวิตคือการเดินทางซ้ำๆ” เราไม่จำเป็นต้องรอให้นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนก่อนถึงจะเริ่มใหม่ได้
ความสุขกับการอยู่กับตัวเองนี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ หลายคนกลัวความเงียบ กลัวการต้องอยู่คนเดียวในคืนปีใหม่ ทั้งที่มันอาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้พูดคุยกับตัวเองแบบจริงจัง ถามตัวเองว่าที่ผ่านมาทั้งปี เราทำอะไรเพื่อความสุขของตัวเองไปบ้าง หรือแค่ไล่ตามความคาดหวังของคนอื่น การดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตไม่ได้เริ่มจากการมองหาจากภายนอก แต่มันเริ่มจากการทำให้ตัวเองเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดความสุขเหล่านั้นเข้ามาต่างหาก
ถ้าเรามองการเปลี่ยนปีใหม่เหมือนกับการกดปุ่มรีเซ็ตในเกมกีฬา เช่น เทนนิส ทุกๆ เกมที่เราเสิร์ฟใหม่ เรามีโอกาสที่จะทำให้ดีขึ้นได้เสมอ แต่เราก็ต้องยอมรับว่ามันอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกครั้ง ไม่มีใครเล่นเกมโดยไม่พลาดเลยสักลูก สิ่งที่สำคัญคือการสนุกไปกับเกม เรียนรู้จากความพลาดพลั้ง และเดินหน้าต่อ
สรุปแล้ว การเคาท์ดาวน์ปีใหม่มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันก็คงไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของชีวิต เราแค่อยากชวนให้ทุกคนลองมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้อยู่กับตัวเองในแบบที่มีความสุข ไม่ว่าจะเคาท์ดาวน์หรือไม่ก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้ว ความสุขก็ไม่ได้อยู่ที่ปีใหม่ แต่มันอยู่ที่ "เราใหม่" มากกว่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น