เรื่องสั้น:ดอกคาร์เนชั่นในมือของเรา
ดอกคาร์เนชั่นในมือของเรา
กลางฤดูใบไม้ร่วงในเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งที่ร่วงโรย ชายวัยเจ็ดสิบปลาย ๆ ชื่อ "ลุงสมบัติ" เดินเข้าไปในร้านกาแฟประจำถิ่น พร้อมถือดอกคาร์เนชั่นช่อหนึ่งในมือที่เริ่มเหี่ยวย่นตามกาลเวลา ดอกไม้เหล่านั้นไม่ได้งดงามเหมือนเมื่อแรกซื้อ แต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมันยังคงซ่อนความทรงจำที่ลึกซึ้งไว้
"วันนี้มีเรื่องอะไรให้คิดอีกหรือครับ ลุง?" พีท บาริสต้าหนุ่มในร้านทักด้วยความคุ้นเคย
สมบัติยิ้มมุมปากก่อนตอบเบา ๆ "ก็แค่เรื่องที่คนชอบบอกว่าทำอะไรช้าไปแล้วไม่มีทางย้อนกลับ... แต่จริง ๆ เราแค่กลัวจะเริ่มต่างหาก"
พีทหัวเราะ "ลุงชอบพูดอะไรที่ฟังดูเหมือนคำสอนทุกทีนะ"
สมบัติไม่โต้ตอบ แต่เพียงยื่นคาร์เนชั่นในมือให้พีทแทนคำตอบ บาริสต้าหนุ่มรับดอกไม้มาอย่างงง ๆ และเอ่ยถามว่า "ให้ผมทำไมครับ?"
"นี่เป็นดอกไม้ที่ฉันเคยถือไปหาใครคนหนึ่งเมื่อ 63 ปีก่อน แต่ฉันไม่ได้มอบให้เธอ" สมบัติเริ่มเล่าเสียงแผ่วเบา
ในปี 2505 สมบัติยังเป็นหนุ่มนักศึกษาธรรมดา ๆ ที่ตกหลุมรักหญิงสาวผมยาวชื่อ "อรณี" ความงามของเธอไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ แต่คือรอยยิ้มที่ทำให้โลกดูอบอุ่น แม้ในวันที่หนาวที่สุด สมบัติไม่เคยมีความกล้าพอที่จะบอกความรู้สึกของตนเอง จนกระทั่งวันหนึ่งในช่วงปิดเทอมสุดท้าย เขาซื้อดอกคาร์เนชั่นมาเพื่อสารภาพรัก
แต่วันนั้นเขากลับเดินกลับบ้านพร้อมดอกไม้ในมือเพราะกลัวว่าเธอจะปฏิเสธ
"แล้วหลังจากนั้นลุงไม่ได้เจอเธออีกเหรอครับ?" พีทถามด้วยความสนใจ
"ก็เจอนะ... ในรูปถ่ายแต่งงานของเธอที่ฉันเห็นในงานเลี้ยงรุ่น" สมบัติพูดพร้อมหัวเราะอย่างขมขื่น
หลายสิบปีผ่านไป สมบัติเคยแต่งงาน แต่ชีวิตคู่ของเขาจบลงด้วยการสูญเสียภรรยาเมื่อสิบปีที่แล้ว วันหนึ่งในคืนที่ฝนตกหนัก เขานึกถึงชื่อ "อรณี" อีกครั้ง และตัดสินใจค้นหาเธอในอินเทอร์เน็ต หลังจากพบว่าเธอสูญเสียสามีไปเช่นกัน สมบัติส่งจดหมายสั้น ๆ ไปหาเธอ พร้อมใส่เบอร์โทรศัพท์ไว้
"แล้วเธอโทรกลับมาหาลุงไหม?" พีทถามอย่างตื่นเต้น
"เธอโทรมาสิ... แล้วฉันก็ขับรถห้าร้อยกิโลเมตรไปหาเธอในวันถัดมา" สมบัติตอบด้วยรอยยิ้ม
"นี่มันโรแมนติกเหมือนในหนังเลยนะครับ!"
"โรแมนติกเหรอ? ฉันคิดว่ามันบ้าซะมากกว่า" เขาหัวเราะ
วันที่เขาได้เจออรณีอีกครั้ง สมบัติมอบดอกคาร์เนชั่นที่เขาเคยถือไว้เมื่อ 63 ปีก่อน และพูดว่า "ถึงเธอจะไม่ชอบ แต่ฉันขอจูบเธอได้ไหม?"
อรณียิ้มทั้งน้ำตา และพูดกลับมาว่า "ฉันรอให้เธอพูดคำนี้มาตลอด"
ทั้งคู่แต่งงานกันในปีถัดมา และเต้นรำเพลงเก่าในร้านอาหารที่เปิดเพลงคลาสสิก ไม่มีใครสนใจว่าพวกเขาจะเป็นคนแก่ที่รักกันช้าไป
"ลุงสมบัติครับ แล้วลุงจะบอกอะไรกับคนรุ่นผม?" พีทถามอย่างจริงจัง
สมบัติยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ก่อนตอบว่า "ไม่มีอะไรสายเกินไปหรอก ถ้าใจเรายังอยากทำ และอย่ากลัวที่จะบอกใครสักคนว่ารัก เพราะเวลาที่เราเสียไปมันเอากลับมาไม่ได้ แต่ความกล้าที่จะทำในตอนนี้ มันทำให้เรามีชีวิต"
พีทยิ้ม แล้วมองดอกคาร์เนชั่นในมือด้วยความคิด ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ "ขอบคุณนะครับ ลุง"
สมบัติพยักหน้า ก่อนเดินออกจากร้าน ทิ้งไว้เพียงกลิ่นกาแฟและดอกคาร์เนชั่นที่ยังคงหอม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น