เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมบางครั้งชีวิตมันถึงยากขนาดนี้ ทุกครั้งที่เราคิดว่าเรากำลังจะได้จับจังหวะสักที ก้าวแรกที่เราก้าวไปข้างหน้า กลับมีอะไรบางอย่างดึงเรากลับไปทุกที

เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมบางครั้งชีวิตมันถึงยากขนาดนี้ ทุกครั้งที่เราคิดว่าเรากำลังจะได้จับจังหวะสักที ก้าวแรกที่เราก้าวไปข้างหน้า กลับมีอะไรบางอย่างดึงเรากลับไปทุกที นี่ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวนะ แต่มันเป็นเรื่องที่หลายคนคงเคยรู้สึกเหมือนกัน ซึ่งเราไม่สามารถอธิบายได้ในแบบง่ายๆ ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ มันเหมือนเราโดน ‘เวลาที่เหมือนจะเป็นของเรา’ หักหลัง หรือบางครั้งอาจจะรู้สึกเหมือนอยู่ในช่วง "twin flame" หรือพวกกระแสพลังงานที่เกี่ยวกับคู่ขนานที่ดูเหมือนจะมาเพื่อลบล้างเราแล้วโยนเรากลับมาในภาวะที่เหมือนกับการเดินทางกลับบ้านเสมอ



พูดถึง twinflame นี่ไม่ใช่แค่คำที่ใช้เล่าถึงความสัมพันธ์ที่เข้มข้นเกินไป หรือว่าความรักที่เราต้องการไขว่คว้า แต่บางครั้งมันเหมือนกับเราไปเจอกับอะไรบางอย่างในตัวคนๆ นั้นที่ทำให้เรารู้สึกทั้งพลังงานดี และพลังงานไม่ดี จนตัวเองสับสนว่าเราควรจะรักหรือจะโกรธเขาดี อาจจะเป็นเพราะเขาทำให้เรารู้สึกเห็นกระจกสะท้อนตัวเองในมุมที่เราไม่อยากเห็น บางทีเราอาจจะกลัวการเผชิญหน้ากับความจริงที่เราไม่ยอมรับด้วยซ้ำ ตัวเราเองน่ะ

ในโลกนี้ เราต่างพยายามหา ‘ทางออก’ จากทุกๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต อาจจะเป็นเรื่องการเรียนการงาน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่มันเหมือนจะ ‘ไม่พัฒนา’ ไปไหน เหมือนละครที่เราดูไปเรื่อยๆ เห็นตอนจบแค่คิดว่ามันไม่มีทางออก แน่นอนว่าในบางครั้ง ความรู้สึกที่เราเจอในชีวิตมันไม่ต่างอะไรจากฉากในหนัง “The Matrix” ที่ดูเหมือนว่าทุกอย่างถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้หมดแล้ว คนในเรื่องยังพยายามดิ้นรนหาความจริงในขณะที่รู้สึกเหมือนถูกควบคุมโดยสิ่งที่อยู่เหนือกว่า แต่นั่นก็ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า จริงๆ แล้ว เราคือคนที่สามารถควบคุมมันได้ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเป็นการสร้างขึ้นจากการตัดสินใจของเราเอง เราไม่ได้ถูกใครควบคุมหรอก

แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าหากเราจะมองให้ลึกกว่าแค่การคิดว่าทุกสิ่งมันคือโชคชะตา ความสำเร็จมันไม่จำเป็นต้องเกิดจากการที่เรามีทางออกที่ชัดเจนเสมอไป บางทีเราอาจจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า มันเป็น ‘ตัวเราเอง’ ที่ต้องเปลี่ยนมุมมอง ไม่ใช่เปลี่ยนสถานการณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้น แต่มองมันให้เป็นโอกาสในการเติบโต เช่นเดียวกับนักกีฬา ที่แม้จะพบกับความพ่ายแพ้ในบางครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่ได้มองว่าความพ่ายแพ้นั้นคือจุดจบ แต่กลับมองว่ามันคือบทเรียนในการพัฒนาตัวเอง การเรียนรู้จากความผิดพลาดคือวิธีที่ทำให้เราเก่งขึ้น และแน่นอนว่า การพยายามหลีกเลี่ยงการพลาดบางครั้ง ก็ไม่ได้ทำให้เราพัฒนาอย่างที่ควรจะเป็น

ถ้าเราพูดถึงหนังเรื่อง “The Pursuit of Happyness” แล้วล่ะก็ มันไม่ได้สอนแค่เรื่องความลำบาก แต่สอนว่า บางครั้ง เราต้องทุ่มเท และพยายามทำทุกสิ่งที่อยู่ในมือให้ดีที่สุด แม้จะไม่มีใครเห็นหรือช่วยเหลือ เราจะเห็นได้ว่า ตัวละครหลักในหนังไม่ได้หลีกเลี่ยงปัญหา แต่เขาต่อสู้กับมันด้วยการไม่ยอมแพ้ในทุกๆ ก้าว แม้ในตอนที่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหมดหนทางไปแล้ว

ชีวิตมันไม่ง่าย แต่มันก็น่าสนุกที่ได้ลองทำมันให้ดีขึ้น การที่เราจะยอมรับความท้าทาย และรู้จักวิธีที่จะใช้มันเป็นแรงบันดาลใจให้เราเติบโต คือสิ่งที่จะทำให้เรารู้ว่า ทุกปัญหามีทางออก เพียงแค่เรามองมันในมุมที่แตกต่างกันออกไป บางครั้งไม่ต้องรีบหาทางออก ก็แค่ปล่อยให้ตัวเองเดินไปในทางที่มันเหมาะกับเรา อย่าลืมว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเจอกับความยุ่งเหยิงในชีวิต มันอาจเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาของการค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเอง


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม