เรื่องสั้น:เสาร์สุดท้ายในฤดูกาลใจ
เสาร์สุดท้ายในฤดูกาลใจ
เช้าวันเสาร์ที่แดดอุ่นเกือบกลืนเมือง มิวและกรเดินเคียงกันมาตามถนนสายเล็กของกรุงเทพฯ ที่มีร้านกาแฟและห้องสมุดซ่อนตัวอย่างถ่อมตน มันไม่ใช่วันที่พิเศษ แต่พวกเขาต่างรู้ว่ามันอาจเป็นเสาร์สุดท้ายที่พวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันก่อนที่ชีวิตจะพัดพาไปในทิศทางที่ไม่อาจควบคุมได้
"เธอไม่ควรจะพึ่งพาฉันมากไปนะ" กรพูดเสียงนุ่ม แต่คำพูดนั้นเหมือนหินกลิ้งลงจากเขา มิวชะงักเล็กน้อยก่อนพยักหน้าช้าๆ เธอรู้ว่ากรพูดถูก เธอเคยปล่อยตัวเองเป็นเงาของเขาโดยไม่ตั้งใจเหมือนคนที่รอคอยให้ใครสักคนกำหนดเส้นทางให้ชีวิต
"ฉันพยายามอยู่นะ" มิวตอบพร้อมยิ้มเศร้า "แต่อะไรบางอย่างในตัวฉันเหมือนมันถูกฝังมานานเกินไป ฉันเคยชินกับการตามหลังคนอื่น แต่ฉันก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนที่ยืนได้ด้วยตัวเองเหมือนกัน"
กรยิ้มมุมปาก "ฉันไม่ได้ว่าเธอหรอก แค่บางที...ฉันก็กลัวว่าฉันเองอาจจะติดอยู่ในวงจรนี้เหมือนกัน เธอรู้ไหม บางครั้งฉันก็อยากให้มีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่เดียวดาย แต่พอมีคนอยู่ข้าง ๆ ฉันกลับกลัวว่าฉันจะเป็นฝ่ายพึ่งพาเขาแทน"
มิวหัวเราะออกมาเบา ๆ "เราก็เหมือนภาพของเซซานน์นะ ภาพที่วาดได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีความงดงามในแบบของมันเอง เธอรู้ไหม ฉันหลงรักงานของเซซานน์เพราะมันเหมือนเรา มันซับซ้อนและลึกซึ้งในความไม่สมบูรณ์แบบของมัน"
พวกเขานั่งลงบนม้านั่งริมทาง เสียงรถราวิ่งผ่านให้บรรยากาศคล้ายกับดนตรีแจ๊ซอันยุ่งเหยิงแต่ลงตัว มิวหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา มันเป็นบทกวีที่เธอเขียนไว้ด้วยลายมือของเธอเอง กรหยิบสมุดโน้ตออกมาพลางจดคำว่า "ความรักคือการต่อรองระหว่างความต้องการและการปล่อยวาง"
"เธอคิดว่าเราจะผ่านทุกอย่างไปได้ไหม" มิวถามเสียงแผ่ว
"ฉันคิดว่าเราจะต้องผ่านมันไป" กรตอบพร้อมรอยยิ้ม "มันเหมือนกับเรือนั่งเฟอร์รี่น่ะ บางทีเราอาจต้องนั่งคนละฝั่ง แต่สุดท้ายเราก็ลอยไปพร้อมกันอยู่ดี"
มิวหัวเราะ "เธอนี่เปรียบเทียบเก่งจริง ๆ ถ้าฉันเขียนนิยาย ฉันต้องเอาเธอเป็นต้นแบบตัวละครแน่ ๆ"
กรมองหน้าเธอด้วยสายตาอ่อนโยน "ฉันก็อาจจะเขียนเรื่องเธอเหมือนกัน เธอเหมือนบทกวีที่ฉันยังเขียนไม่จบเสมอมา"
แล้วพวกเขาก็เดินต่อไป มองดูท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีช้า ๆ เหมือนจะเตือนให้พวกเขารู้ว่าทุกสิ่งล้วนแปรเปลี่ยน แต่มันก็ยังคงงดงามอยู่เสมอ บางทีการยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบอาจเป็นความงดงามที่สุดของชีวิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น