เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมโลกในเกม Final Fantasy 7 ถึงได้ดูเป็นโลกที่ทั้งดึงดูดและน่าหดหู่ในเวลาเดียวกัน

เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมโลกในเกม Final Fantasy 7 ถึงได้ดูเป็นโลกที่ทั้งดึงดูดและน่าหดหู่ในเวลาเดียวกัน เราไม่ได้พูดถึงตัวละครหรืองานเพลงประกอบเกมนะ แต่เรากำลังพูดถึง "ภูมิทัศน์" ของมัน—สถาปัตยกรรม ภูมิประเทศ และเมืองที่สร้างขึ้นในเกมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรามองไปที่สองจุดสำคัญในเกม: บริษัท Shinra และ ย่าน Wall Market แล้วคิดดูว่า มันมีอะไรที่ทำให้สองที่นี้กลายเป็นตัวแทนของโลกใน Final Fantasy 7 ได้ชัดเจนขนาดนั้น



เริ่มจากบริษัท Shinra กันก่อนเลย ทุกคนจำได้ใช่ไหมว่า Shinra Electric Power Company ในเกมนี้มันเหมือนกับยักษ์ใหญ่ที่ครอบงำทุกอย่างในโลกของ Midgar ทั้งเทคโนโลยี พลังงาน และชีวิตของผู้คน ตัวอาคารของ Shinra นั้นถ้าดูดีๆ มันไม่ใช่แค่ตึกสูงธรรมดา แต่มันเป็นสัญลักษณ์ของ "ความเจริญ" ที่ทิ้งร่องรอยของความเสื่อมไว้เบื้องหลัง ตัวอาคารทรงโมเดิร์นนิสต์เรียบๆ แต่ดูแข็งกร้าวเหมือนว่ามันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงาม แต่มันคือการแสดงพลังของการควบคุมและการครอบงำ



พอลองเปรียบเทียบดู เรารู้สึกว่า Shinra น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจาก สถาปัตยกรรมยุคฟาสซิสต์ อย่างที่เราเห็นใน Reich Chancellery ของนาซีเยอรมนี หรืออาคารรัฐบาลของโซเวียต มันคือสไตล์ที่เน้นความยิ่งใหญ่แบบไร้ความอบอุ่น การออกแบบไม่ได้มาเพื่อให้คนรู้สึกมีชีวิตชีวา แต่มาเพื่อทำให้คนรู้สึกว่าตัวเองเล็กจิ๋วเมื่ออยู่ใกล้ตึกเหล่านี้

มาพูดถึง Wall Market กันบ้าง ย่านนี้มันเหมือนย่านโคมแดงในเกม ที่เต็มไปด้วยสีสัน วุ่นวาย และเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่ดูเหมือนจะแตกต่างจากโลกที่หม่นหมองโดยรอบใน Midgar แต่เมื่อมองลึกลงไป มันก็เป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการถูกทอดทิ้งโดยระบบเศรษฐกิจและสังคม Wall Market ทำให้เรานึกถึง "ตลาดมืด" ในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Kowloon Walled City ในฮ่องกงที่เคยเป็นชุมชนที่ไม่มีการควบคุมใดๆ หรือแม้แต่ตลาดกลางคืนในกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยแสงไฟ เสียงเพลง และความสับสนวุ่นวาย



Wall Market ในเกมนี้มีชีวิตชีวา แต่ก็เป็นชีวิตที่ถูกขับเคลื่อนด้วย "ความอยู่รอด" มากกว่าความสุข มันเหมือนกับคำพูดในหนังของ Hayao Miyazaki เรื่อง Spirited Away ที่เคยพูดไว้ว่า "ในโลกที่ไม่มีใครสนใจใคร การซื้อขายกลายเป็นการรอดชีวิตมากกว่าความสุข"

สิ่งที่ทำให้ Shinra กับ Wall Market น่าสนใจ คือการที่ทั้งสองสถานที่นี้สะท้อนให้เห็นโลกที่เราอยู่ได้อย่างชัดเจน มันคือสองขั้วตรงข้ามของ "การควบคุม" กับ "ความวุ่นวาย" ที่ดูเหมือนจะเป็นคู่ขนานของสังคมจริงๆ เมื่อเราคิดถึงเมืองใหญ่ในโลกความเป็นจริง เราเห็นแง่มุมแบบนี้ในทุกมุมเมือง โตเกียวมีย่านชินจูกุที่สว่างไสวไปด้วยป้ายไฟและคนเดินพลุกพล่าน ในขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นก็เหมือน Shinra ที่วางแผนทุกอย่างด้วยความเข้มงวด หรือถ้าใครเคยเดินผ่านย่านสลัมของเมืองใหญ่ มันคือ Wall Market ในอีกเวอร์ชันหนึ่งที่เต็มไปด้วยชีวิต แต่ก็เป็นชีวิตที่เปราะบางและดิ้นรน

ในที่สุด การออกแบบภูมิทัศน์ใน Final Fantasy 7 มันไม่ได้แค่สวยงามหรือดูเท่ แต่มันคือการสะท้อนความจริงในโลกของเรา โลกที่ความเจริญและความทุกข์เดินคู่กันไป เป็นเหมือนคำถามว่า "เราจะสร้างเมืองที่มีชีวิต แต่ไม่ทิ้งความเป็นมนุษย์ได้ไหม" และนี่อาจเป็นประเด็นที่เราอยากให้ทุกคนเก็บไปคิดดูเวลาที่เดินผ่านตึกสูงใหญ่หรือย่านตลาดที่พลุกพล่านในชีวิตจริง


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม