เราเคยสงสัยกันไหมว่า เกมที่เราเล่นเนี่ย มันไม่ได้มีแค่ปืนใหญ่ยักษ์หรือยานรบเท่ๆ อย่างเดียว มันยังมีงานออกแบบสวยๆ ซ่อนอยู่เพียบ Halo: Reach เป็นตัวอย่างชั้นดี
เราไม่รู้ว่าทุกคนเคยสังเกตไหม แต่ landscape architecture ในเกมนี้โหดมาก สวยแบบชนิดที่ถ้าคนออกแบบพวกพื้นที่ในเกมลาออกไปเป็นสถาปนิกในชีวิตจริง จะต้องรวยจนซื้อตึกกลางอโศกได้แน่ๆ เช่น พื้นที่ที่ชื่อ Reach มีภูมิทัศน์ที่ชวนให้รู้สึกโดดเดี่ยวแต่น่าค้นหา แสงเงาที่เฉลียวฉลาดบ่งบอกถึงการออกแบบที่เข้าใจ "อารมณ์ของผู้คน" ยิ่งกว่าแค่อยากให้ดูสวยเฉยๆ มันเหมือนสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ มีวิญญาณของตัวเอง ไม่ใช่แค่ฉากเปล่าๆ ที่ตั้งไว้ให้คนยิงกัน
เราแอบคิดว่าคนออกแบบอาจได้แรงบันดาลใจมาจาก Brutalism ผสมกับ modern minimalism คือถ้าพูดง่ายๆ มันเหมือนเอาสถาปัตยกรรมโรงไฟฟ้าเชียงรากน้อยกับศูนย์ประชุมแห่งชาติในเวอร์ชันที่มาอยู่ในอวกาศ ถ้าทุกคนลองมองตึกในเกม พวกตึกสูงที่แข็งแกร่งแบบไม่มีอะไรมาก แต่ก็ดูมีอะไรลึกลับในแววโครงสร้าง เหมือนตึกมันพูดได้ว่า "ลองเข้ามาดูสิ แล้วเราจะเล่าเรื่องทั้งจักรวาลให้ฟัง" คนออกแบบที่มีทักษะแบบนี้เราคิดว่าต้องเสพงานพวก Metabolism สไตล์ญี่ปุ่นมาเต็มแน่ๆ พวก Kisho Kurokawa หรือ Kenzo Tange คงเป็นไอดอลเขา
มาถึง interior design กันบ้าง ทุกคนเคยคิดไหมว่าห้องในเกมมันดูมีสมอง? ไม่ได้พูดว่าห้องในเกมมันอ่านหนังสือได้นะ แต่จะบอกว่าการจัดฟังก์ชันของห้องโหดจนเกินจะเข้าใจ มีทั้งพื้นที่แคบที่ดูคล้ายอุโมงค์รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศกในชั่วโมงเร่งด่วน (แบบที่เราก้าวเท้าผิดทางชีวิตเปลี่ยน) กับพื้นที่กว้างในฐานทัพที่แสงจากหน้าต่างกระทบพื้นทำมุม 45 องศา ดูเหมือนเวลาในโลกของ Reach จะไม่ได้หยุดนิ่งแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
พูดถึงศิลปะ เราคิดว่าการจัดวางแสงในเกมนี้เหมือนเดินเข้าแกลลอรีของ Rembrandt เลย ทุกคนจำงานพวก "The Night Watch" ได้ไหม ที่แสงส่องเฉพาะจุดเพื่อดึงดูดสายตา Halo: Reach มีโมเมนต์แบบนี้หลายจุด เช่น เวลาแสงแดดตกกระทบภูเขาที่มีน้ำไหลเบาๆ ดูแล้วคิดในใจว่า "โห นี่เรายิงเอเลียนไปแล้ว 10 ตัว แต่ได้หยุดซึมซับธรรมชาตินี้เป็นของขวัญในเกม"
สุดท้าย ทุกคนว่านี่แค่บังเอิญเหรอ? ไม่มีทาง! เราคิดว่าคนออกแบบในทีม Bungie น่าจะหลับตาฝันถึงเกมของตัวเองในฐานะนิยายวิทยาศาสตร์ชั้นเลิศที่ผสานศิลปะและวิศวกรรมไว้อย่างลงตัว ถ้าเปลี่ยนจากเล่นเกมแล้วเดินเข้าไปใน Reach ด้วยสองเท้า เราว่าคนที่ชอบเดินตามเส้นสายน้ำในปางช้างหรือปีนดอยอินทนนท์คงอินหนักไม่แพ้กัน
ถ้าเกมมันมีแบบแผนขนาดนี้ ความเป็นจริงที่ทุกคนอาจมองว่า "เราแค่เล่นเกม" จริงๆ คือเราเข้าไปเดินดูนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดของศตวรรษ อันนี้พูดได้เลยว่าสุดจะตลกแบบตลกร้ายว่า งานบางชิ้นที่เราจ่ายเงินให้ค่าน้ำค่าไฟในชีวิตจริง อาจยังไม่มีอิทธิพลต่ออารมณ์เราได้ขนาด Halo: Reach เลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น