เกมในตำนานอย่าง Parasite Eve ทุกภาค ตั้งแต่ฉากสวยจนสะพรึงยันดีไซน์ที่แฝงความหมายลึกซึ้งราวกับนิทรรศการศิลปะในหอศิลป์
ลองเริ่มจากภาคแรก ทุกคนเคยสังเกตไหมว่า Manhattan ในเกมมันทั้งงดงามและเปลี่ยวเหงาไปพร้อมๆ กัน? เมืองที่ไม่เคยหลับไหลกลับกลายเป็นสถานที่ที่ว่างเปล่าเพราะการล่มสลายทางชีวภาพ มันเหมือนตอนเราดู Blade Runner หรืออ่านนิยายไซไฟคลาสสิกอย่าง Do Androids Dream of Electric Sheep? แล้วรู้สึกเหมือนกันไหมว่านี่มันคือเมืองที่ห่อหุ้มด้วยความโดดเดี่ยว โดยในเกม Parasite Eve เราว่าดีไซน์ของตัวเมืองชวนให้นึกถึงผลงานของ Le Corbusier สถาปนิกคนดังที่เชื่อว่าเมืองควรถูกสร้างด้วยฟังก์ชันล้วนๆ แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเมืองกลับทำให้เราคิดถึงงานภาพยนตร์ของ Alfred Hitchcock ที่มีความเงียบสะท้อนอารมณ์เหมือนกับช่วงกลางดึกที่ไม่มีใครอยู่
แล้วมาดูด้านสถาปัตยกรรมภายในในเกมนี้กันบ้าง ทุกครั้งที่ Aya Brea เข้าไปในอาคาร มันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เหมือนพิพิธภัณฑ์ที่อยากเล่าเรื่องแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ทางเดินที่แคบยาวกำแพงสีอึมครึมไฟกระพริบๆ มันเหมือนเป็นการพยายามดึงเราเข้าสู่โลกของ HR Giger ศิลปินผู้ให้กำเนิด Alien ที่ทั้งน่าหลงใหลและน่าสะพรึงไปพร้อมๆ กัน เราเดาว่าทีมงาน Square Soft (ชื่อสตูดิโอในยุคนั้น) น่าจะไปเที่ยวดูนิทรรศการของเขาแล้วเอาความหม่นแบบไซเบอร์พังค์กลับมาย่อส่วนในเกมตัวเอง
ภาคสองก็ไม่แพ้กัน นอกจากบรรยากาศที่เล่นกับแสงเงาจัดจ้านเหมือนหนังของ Guillermo del Toro มันยังใช้แนวคิดเรื่อง space optimization ในทางตรงข้ามกับที่คนในชีวิตจริงทำกัน ลองดูสิ ทุกคน สถาปัตยกรรมในนั้นไม่มีใครคิดเผื่อมนุษย์ธรรมดาเลย! ลิฟต์ก็เล็ก พื้นที่ทางเดินก็แคบเกิน บางทีเราว่านักออกแบบเกมอาจจะอยากให้เรารู้สึกถึงความกดดันและความไม่สมดุลในชีวิต แม้แต่ทางหนีไฟยังดูเหมือนหลุดมาจากงานออกแบบของ Zaha Hadid ถ้าเธอเคยออกแบบหลุมฝังศพ เอ้า จริงนะ!
พอมาถึงภาค The Third Birthday ทุกคนคิดยังไงกับธีมในเกมนี้? เราว่ามันเหมือนกับงานโชว์สมัยนิยมที่แสดงให้เห็นถึงความบ้าคลั่งในโลกอนาคต ฉากพังๆ กับการใช้สีที่เน้นฟ้าเข้ม เหลืองนีออน และไฟแดง เหมือนการผสมลูกผีลูกคนระหว่างงานศิลป์ของ Banksy กับดีไซน์แนว “Metabolism” ที่เกิดในญี่ปุ่นช่วงหลังสงคราม ทุกตึกทุกซอกมุมดูเหมือนกำลังเตรียมพร้อมจะเปลี่ยนรูปร่างอยู่ตลอดเวลา เหมือนจะบอกว่าโลกที่เราเห็นมันไม่ได้มั่นคงหรือเหมือนเดิมเลย
ถ้ามองภาพรวม เราว่า Parasite Eve ไม่ได้เป็นแค่เกม แต่มันเป็นการเล่าเรื่องที่ทีมออกแบบพยายามบอกกับเราเป็นนัยๆ ว่า เรากำลังเดินอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงและบิดเบี้ยวอย่างไม่มีสิ้นสุด เหมือนชีวิตในบางครั้งที่แสนจะวุ่นวาย แต่เราก็ต้องหาทางผ่านมันไปให้ได้ เราอยากให้ทุกคนลองกลับไปเล่นอีกทีแล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่า สถาปัตยกรรมรอบตัวสะท้อนถึงอารมณ์และความคิดของมนุษย์ในเกมและในชีวิตจริงได้ยังไง
เพราะสุดท้ายแล้ว การออกแบบในเกมหรือในชีวิตจริงมันก็เป็นภาพสะท้อนความซับซ้อนของจิตใจเราเองนั่นแหละ ขอบอกตรงนี้เลยว่าเราอยากเห็นงานอีเวนต์โชว์นิทรรศการ Parasite Eve สักที ใครจัดแล้วไปเจอเราที่งานนะ เราจะถือชาเขียวรอ!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น