เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมสถานีตำรวจในเกม Resident Evil หรือ "สถานีตำรวจแรคคูนซิตี้" มันถึงได้ดูเหมือนพิพิธภัณฑ์หลุดมาจากศิลปะยุคโกธิคแบบที่ตั้งใจโชว์ภาพลักษณ์ชวนขนลุกให้กับนักท่องเที่ยวมากกว่าจะเป็นที่สำหรับสายสืบ
สงสัยคงต้องทำเล่าอันนี้เป็นวีดีโอละ
เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมสถานีตำรวจในเกม Resident Evil หรือ "สถานีตำรวจแรคคูนซิตี้" มันถึงได้ดูเหมือนพิพิธภัณฑ์หลุดมาจากศิลปะยุคโกธิคแบบที่ตั้งใจโชว์ภาพลักษณ์ชวนขนลุกให้กับนักท่องเที่ยวมากกว่าจะเป็นที่สำหรับสายสืบ สายปราบปราม และตำรวจผู้ขจัดพาลชน เราเองเล่นเกมครั้งแรกก็แอบถามตัวเองเหมือนกันว่า อันนี้สถานีตำรวจหรือสถานที่เก็บความลับศตวรรษที่ 19 กันแน่
ลองสังเกตกันดีๆ ทุกคนจะเห็นเลยว่ามันไม่ใช่สถานีตำรวจแบบที่เราคุ้นเคยในหนังตำรวจดราม่าหรอก ไม่มีโต๊ะประชุมเล็กๆ ห้องพักสวัสดิการ หรือเครื่องก๊อปปี้เอกสารที่พังกองอยู่มุมตึก
แต่สิ่งที่เรามองเห็นคือบันไดหินอ่อนวนโค้งล้ำยุค โคมไฟระย้าหนักแสนหนัก (ใครมาทำความสะอาดให้บ้างนี่) ประตูไม้แกะสลักเหมือนกับหลุดมาจากปราสาทท่านเคาท์แดรคคูลา และที่เด็ดสุดคือรูปปั้นที่ดูแพงเว่อร์และมีปริศนาซ่อนแอบแบบว่าชอบฮ่าอยู่ด้วยแบบที่เราอยากถามผู้บังคับบัญชาว่า "ท่านจัดงบไปอยู่ตรงนี้หมดเหรอ"
เอาจริงๆ งานออกแบบแบบนี้แอบบอกเล่าความขลังในเชิงสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่แฝงมากับอาร์ตเดคโคและความเป็น "Neo-Classicism" เราว่าผู้พัฒนาเกมน่าจะได้แรงบันดาลใจจากสถานที่จริง
เช่น สถาบันรัฐบาลเก่าแก่ในฝรั่งเศสหรืออังกฤษ ถ้าทุกคนเคยเห็น Palais Garnier โรงอุปรากรที่ปารีส มันมีพลังความหรูหราแบบคล้ายๆ กันเลยนะ แค่เปลี่ยนความอลังการเสียงเพลงโอเปร่าให้เป็นเสียงซอมบี้ร้องเสียงลั่นและเสียงคนร้องจากการโดนซอมบี้กัดเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ การจัดวางพื้นที่ภายในยังคล้ายโครงสร้างของพิพิธภัณฑ์ มีกลไก “Puzzle Architecture” เข้ามาเกี่ยวข้อง นี่มันพิพิธภัณฑ์หรือ Escape Room กันแน่?
คิดดูว่าทำไมล็อกเกอร์หรือประตูต้องใช้ไอเท็มพิลึกๆ แบบหางยูนิคอร์น กุญแจดอกจิกกุญแจหัวใจกุญแจนั่นนี่ หินงูหินบ้าบอคอแตกงัดถึงเปิดได้ หรือแค่จะห้องลับในมุมมืด ทำไมต้องปีนขึ้นชั้นบน วนไปหาปริศนาเปิดทาง
แบบนี้แหละที่แอบสงสัยว่า ในโลกจริง ถ้าตำรวจแรคคูนคนไหนลืมกุญแจรถ ต้องปีนบันไดสามชั้นกลับไปล็อคเกอร์ที่ลับจนเวียนหัว ทำให้สถานที่นี้ไม่น่าจะเหมาะกับการทำงานจริงๆหรอกแต่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเกมเอาไว้เล่นนั่นแหละเพื่อสนุกสนาน(แต่คนคิดมากคือกู)
เราเคยคิดเล่นๆ ว่าแรงบันดาลใจแบบนี้เขาอาจจะยึดความสวยงามมาเป็นหลัก โดยเฉพาะจากหนังประเภทฟิล์มนัวร์และยุคทองของภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่ใช้โลเคชันแสงเงามืดมัวสร้างอารมณ์ตื่นเต้น
ยิ่งเวลาเราเดินผ่านโถงใหญ่ ที่แสงสะท้อนจากกระจกสเตนกลาสตอนบ่ายๆ แล้วมีเงาของซอมบี้สะท้อนมาอ่อนๆ ทำให้ประสบการณ์เล่นเกมดูมีคลาสและน่ากลัวในแบบที่ไม่น่าจะหาได้จากที่ไหนอีก
ส่วนใครที่เคยเล่นเกมแล้วหลุดลงไปใต้ดินคงจะอุทานในใจว่า “นี่ระบบระบายน้ำหรือคลองแสนแสบยุคไซไฟ?” มีห้องลับงงๆ เต็มไปหมด ระบบพวกนี้จริงๆ ออกแบบไว้เผื่อเกิดอุทกภัยหรือเตรียมไว้หนีซอมบี้ตั้งแต่แรกกันแน่
ว่ากันว่าท่อระบายน้ำใต้ดินของที่นี่ซับซ้อนระดับเดียวกับแผนที่ MRT บ้านเราเลย ทุกคนเคยคิดไหมว่าถ้าคนออกแบบเอาจริงๆ ควรจะมาเขียนแผนที่โลกนะ เพราะระบบระบายน้ำมันมีทุกอย่างตั้งแต่ประตูล็อกด้วยปริศนา ไปจนถึงปล่องใหญ่พอให้จระเข้กลายพันธุ์เข้าไปนั่งพักผ่อนได้แบบชิลๆ ลองนึกภาพระบบระบายน้ำกรุงเทพฯ มีอันนี้บ้างดิ ทุกวันนี้เจอท่อระบายน้ำบ้านเรา บางที่ยังสงสัยว่าท่อเล็กกว่าขวดน้ำ ขยะจะผ่านยังไง
แล้วที่เราชอบมากคือเวลาน้ำท่วมที่แรคคูนซิตี้ น้ำดูใสสะอาดขนาดที่ใครบางคนอาจคิดว่าดื่มได้ ต่างจากชีวิตจริงของเราที่น้ำท่วมทีไร เจอแต่ขวดโค้กลอยมาพร้อมถุงพลาสติก ถ้าระบบระบายน้ำในเกมนี้เป็นของจริง กรมชลประทานน่าจะต้องอัญเชิญสถาปนิกมาเป็นบุคคลสำคัญของชาติ
แรคคูนซิตี้ไม่ได้สอนเราเรื่องซอมบี้อย่างเดียว แต่มันบอกว่าถ้าจะอยู่รอดในเมืองซอมบี้ น้ำอย่าเน่า ขยะอย่าอุด มีงบต้องเอาไปขยายท่อให้ใหญ่มากพอที่จระเข้เข้าไปทำเล็บได้ เพราะชีวิตคนตายได้ไม่เป็นไร แต่ระบบน้ำเน่าไม่ควรมี!
เราว่านะ ถ้าตำรวจในโลกจริงจะมีแรงบันดาลใจจากแรคคูนซิตี้ อาจไม่ใช่ความหรูหรา แต่ควรนำฟังก์ชันการทำงานมาปรับบ้าง (ยกเว้นล็อคเกอร์และระบบไขปริศนาแสนเว่อร์และไม่ต้องเอาไวรัสมานะ)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น