ก้าวแรกที่ไม่อยากไปต่อ

ตอนนี้ adobe stock กูไข่แตกแล้วยอดไม่ใช่ศูนย์แล้วนะมียอดขึ้นราวๆ 15 เหรียญซึ่งจริงๆมันก็เป็นก้าวแรกแหละแต่เป็นก้าวแรกที่กูไม่อยากไปต่อเพราะกูรู้สึกว่ามันเป็นสายที่ใครก็ตามสามารถเจนภาพแล้วไปลงได้เหมือนๆกัน

ที่กูมาสายนิยายมันมีเหตุผลอยู่ข้อแรกคือกูทำปกได้อยู่แล้วกูจัดอาร์ตได้กูเขียนได้แค่ต้องฝึกเขียน fiction แล้วมันก็เป็นอัลเคมี่ระดับหนึ่งหมายความว่ามันเป็นกระบวนการลึกหลายชั้นกว่าจะทำหนังสือ 1 เล่มได้มันเป็นกระบวนการที่ไม่ใช่ใครก็ได้เลียนแบบได้และเข้าสู่วงการได้ง่ายๆ

กูเองก็ต้องอาศัยเวลาในการเจาะเข้าไประดับหนึ่งเหมือนกันเพราะเป็นวงการที่กูไม่เข้าใจเหมือนกันแต่เผอิญกูทำได้ทุกขั้นตอนทำได้หมดแล้วทุกกระบวนการสามารถทำหนังสือขายได้เอง

แล้วถ้าถามกูว่าทำไมกูไม่เป็นนักวาดปกนิยายหรือทำงานวาดภาพประกอบต่อกูบอกได้เลยว่าจากที่กูใช้ AI มากูคำนวณว่าไม่ช้าก็เร็วดิจิตอลอาร์ตมันจะเปลี่ยนไปวงการดิจิตอลอาร์ทอ่ะมันจะเปลี่ยนซึ่งเปลี่ยนไปแค่ไหนกูไม่ขอพูดตรงนี้นะเดี๋ยวดราม่ากับกูอีกเหนื่อยกูอยากทำงานกูไม่อยากดราม่า

ดิจิตอล art มันเป็นกระบวนการชั้นเดียวหมายความว่ากระบวนการวาดเพียง 1 ชั้นเท่านั้นอาจจะมีร่างแบบลงสีอะไรแบบนี้นับเป็นกระบวนการ 1 ชั้นหมายความว่าเป็นสิ่งที่ AI เลียนแบบกระบวนการได้แล้วกูใช้ AI ระดับลึกถึงขั้นหนึ่งที่บอกได้ในระดับหนึ่งว่าทำไมดิจิตอลอาร์ตถึงจะเปลี่ยนไปในอนาคตแต่อย่ามาถามกูว่าเปลี่ยนไปยังไงกูไม่อยากดราม่าและไม่อยากเถียงกับพวกมึงแล้ว

ถ้าให้กูเลือกไปกูจะไปสายอาร์ทกับคราฟสำหรับสายวาดนะนั่นก็คือพวกสายวาดมืออันนี้ยังไม่ตายง่ายๆส่วนดิจิตอลอาร์ตขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นซึ่งกูก็บอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่เมื่อไหร่ที่คนคุ้นชินกับ AI และรังเกียจมันน้อยลงเมื่อนั้นนั่นแหละซึ่งถามว่ากูจะรอให้มันมาถึงไหมล่ะกูก็ต้องเปลี่ยนตัวเองก่อน disruption มาถึง

แล้วถ้าถามว่ากูสนใจไหมเรื่องที่คนต่อต้าน AI กูไม่สนใจว่ะเพราะว่ากูไม่ได้คนต่อต้าน คนต่อต้านก็ต่อต้านไปกูเป็น user และกูไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการใช้ AI กูใช้ในทุกมิติเลยเพราะกูมองว่านี่คืออนาคตและกูมองไม่ค่อยพลาดและยิ่งคนต่อต้านเยอะๆอย่างนี้

ยิ่งทำให้กูนึกถึงตอนกูเล่นติ๊กต๊อกแรกๆแล้วคนมาด่าว่าแอ๊บสก๊อยเหมือนกันตอนนั้นกูก็โดนแบบนี้แหละกูก็ยังทำต่อมาเรื่อยๆกูมองว่าถ้ามึงเปิดใจรับ AI นะมึงสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวจริงๆว่ะมึงไม่ต้องมีใครช่วยเลยนะเอาจริงๆมึงทำทุกอย่างหลายอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวเลยเป็นone punch man

มึงรู้ป่ะเวลาที่กูทำอะไรสักอย่างกูรอสัญญาณเอา step แรกแค่นั้นเองอย่างเช่นเวลาขายนิยายกูขอขายเล่มแรกได้นั่นคือกูไปต่อสายนั้นเลยหรือมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่ชัดเจน

ตอนที่กูทำติ๊กต๊อกตอนแรกๆเป็นยุคที่มีแต่คนด่าติ๊กต๊อกบอกว่าเป็น app สก๊อยมีแต่สก๊อยมาเต้นกันกูก็ไม่ได้สนอะไรกูก็ทำไปเรื่อยๆของกูอย่างที่กูบอกว่าพอกูถึงแสนฟอลโล่คนก็งงและติ๊กต๊อกก็บูมพอดีกูคำนวณอะไรไม่เคยพลาดเท่าไหร่

และตอนนี้กูกลับมาทำ YouTube เหตุผลก็คือกูรู้สึกเบื่อกฏหยุมหยิมของติ๊กต๊อกเช่นวางลิงค์ไม่ได้แบบ instagram platform ไหนที่วางลิงค์ไม่ได้กูบอกเลยว่าตอนแรกกูไม่อยากจะจริงจังเลยเพราะว่าถ้าหากวางลิงค์ไม่ได้ก็เท่ากับปิดการขายไม่ได้มันต้องมีวิธีปิดการขายอย่างอื่น

ซึ่งอาจจะไปปิดการขายในไลฟ์หรืออะไรก็ตามที่เสียเวลาแต่ตอนที่ทำ tiktok ก็คือทำเพราะชื่อด้วยหมายถึงชื่อเสียงนะให้คนรู้จักมากขึ้นแต่ที่กูทำติ๊กต๊อกตอนนั้นเพราะกูมองว่ามันใหม่และมันเป็นวิธีการเล่าเรื่องแบบใหม่ที่น่าสนใจกูก็เลยยอมเบลอข้อที่วางลิงค์ไม่ได้ไป

และตอนนี้กูก็ขายอีบุ๊คเล่มแรกได้แล้วจริงๆกูขายอีบุ๊คมานานแล้วแต่เป็น non fiction เมื่อวานเป็นฟิคชั่นเล่มแรกที่กูขายหมายความว่ากูรอสัญญาณต่อไปถ้ามันขายได้เรื่อยๆแปลว่ากูมาเวย์นี้ได้แล้วกูเซ็ตอัพระบบสำเร็จแล้ว

กูมองว่า YouTube เป็น platform ที่ evergreen ยังอยู่อีกนานและยังคงอยู่ถ้าคงมีคนเสพคอนเทนต์อยู่เป็นวีดีโอซึ่งวีดีโอก็น่าจะอยู่อีกนานอีกนั่นแหละถ้าไม่หารายได้จากค่าโฆษณาอย่างเดียว YouTube จะเป็นเวนิวที่น่าสนใจมากถ้าใครไม่รู้ว่าจะโปรโมทตัวเองยังไงลอง setup ช่องดูก่อนอาจจะยากหน่อยตอนแรกนะ

กูจะบอกว่ากูทำ YouTube อ่ะจนตั้งแต่ 33 view 20 view คนไม่ดูเพลงกูเลยจนกระทั่งวิวมันมาเท่านี้แล้วถึงแม้ว่ากูจะเกาะช่องเก่าที่เป็นช่องวาดรูปมาก็ตามแต่ content กูที่เป็นเพลงคนไม่สนใจเลยในตอนแรก

จนตอนนี้คนสนใจดูเพลงกู 100 - 200 วิวกูมองว่านี่คือ traffic และมันสามารถเพิ่มขึ้นได้ถ้าหากกูเพิ่ม quality ของเพลงที่แต่ง music video ที่ทำและอื่นๆที่อาจจะเป็นผลต่อเนื่องและแน่นอนว่าเป้าหมายของไม่ใช่การได้ค่าโฆษณา YouTube (เพียงอย่างเดียว)

แต่เป็นการขายสินค้าซึ่งจะเป็นสินค้าอะไรนั่นก็แล้วแต่เลยแต่ถ้ามันมีฟันเนลขึ้นมาแล้วต่อไปจะขายสินค้าอะไร traffic มันก็คือทางเข้าฟันเนลหรือกรวยการขายนั่นเอง

ซึ่งจุดนี้ที่กูกลับมาทำ YouTube เพราะว่าติ๊กต๊อกทำไม่ได้ว่ะติ๊กต๊อก convert คนออกนอกแพลตฟอร์มได้ยากมากทำให้กระบวนการสร้างรายได้ของติ๊กต๊อกคือต้องอยู่บนแพลตฟอร์มของติ๊กต๊อกเท่านั้นทำให้กูลดการใช้ tiktok ลงแต่ถ้าใครต้องการจะใช้ tiktok เพื่อการสร้างชื่อเสียงกูก็อยากสนับสนุนอยู่นะมันก็เป็นช่องทางที่ทำง่ายกว่า YouTube

ยกตัวอย่างเช่นกูเริ่มมีแฟนคลับ message มาถามหรือทิ้งคำถามไว้ใน comment แล้วว่าสนใจดิจิตอลอาร์ทอยากเรียนหรือทำนองว่าจะต้องทำยังไงถ้าสนใจดิจิตอลอาร์ทอะไรพวกนี้ดังนั้นกูบอกเลยว่าทำออนไลน์หรือว่าทำอะไรที่จับเงินในอากาศมันเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความอดทนทำทุกวันและทำระยะยาวดูเหมือนว่าจะไม่ได้อะไรเลยในช่วงแรกแต่ถ้าทุกอย่างมันอยู่ตัวมันก็จะทำรายได้และรันของมันไปได้เองกูรอวันนั้นอยู่แหละมันเคยมีวันที่กูทำได้แล้วแต่กูทำไม่ต่อเนื่องไม่สม่ำเสมอมันก็หลุดไป เช่นช่วงที่กูทำหัวแปรง iPad ขายช่วงนั้นก็ดี

แล้วก็กูก็ไปได้เทคนิคมาจากอีกช่องนึงเขาบอกว่าให้ทำ talking head พูดก่อนที่จะขึ้นเพลงหรือหลังเพลงก็ดีเหมือนกันเป็นการอธิบายว่าที่มาของเพลงนั้นมาได้ยังไงปกติแล้วกูเป็นคนเขียนเพลงแล้วมีที่มาอยู่แล้วมันมีแรงบันดาลใจที่กูเขียนเพลงนั้นขึ้นมาเพื่ออะไรสักอย่างกูก็เลยคิดว่าก็น่าสนใจดีเวย์นี้

กูเคยคิดนะว่าแพลตฟอร์มอูเดมี่มันอาจได้เงินน้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ แต่พอมานั่งคิดอีกที กูเห็นประโยชน์หลายอย่างที่มันให้คนเรียนจริงๆ บางคนอาจจะไม่ได้ติดต่อกับกูโดยตรง แค่ดูวีดีโอแล้วไปทำตามเองได้ ซึ่งสำหรับกูมันคุ้มค่ามาก เพราะว่ามันช่วยให้คนที่สนใจเข้าถึงความรู้ได้ง่าย โดยไม่ต้องมาเจอปัญหาการต้องหาคอนแทคกับผู้สอนให้เสียเวลา

ระบบที่กูฝันถึงคือระบบที่สามารถทำเงินได้เองแบบกึ่งออโตเมชัน อาจจะดูเหมือนเป็นแนวคิดที่น่าสงสัย แต่มึงลองคิดดูว่าถ้าไม่มีสินค้าฟิสิคัล ไม่ต้องมีของจับต้องได้ ก็สามารถทำเงินได้ มันไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนเยอะขนาดนั้น แค่สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า แล้วปล่อยให้มันทำงานเองในระยะยาว

ในโลกนี้มีหลายทางเลือกในการสร้างรายได้ แต่ถ้ามึงเลือกทางที่ไม่ต้องพึ่งสินค้าฟิสิคัลก็ยิ่งดี เพราะไม่ต้องมาคอยควบคุมสต็อกสินค้า ไม่ต้องจัดส่ง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะเหมือนธุรกิจแบบเดิมๆ การเลือกทำคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ยูทูบ อูเดมี่ หรือแม้แต่การทำบล็อค มันคือการลงทุนที่สามารถทำเงินได้แบบออโตเมชันยาวๆ

แล้วถ้ามึงใช้ยูทูบเป็นฟันเนล มันจะทำให้กูไม่ต้องนั่งตอบลูกค้าเอง ไม่ต้องมานั่งดูสลิปโอนที่บางทีก็ทำให้รู้สึกน่าเบื่อและเสียเวลาไปเปล่าๆ ยูทูบมันช่วยให้ทุกอย่างมันเป็นออโตเมชั่นไปแล้ว แค่ทำคอนเทนต์ดีๆ ให้ผู้ชมดู แล้วปล่อยให้มันทำงานไปตามธรรมชาติ ถ้าทำให้มันสำเร็จจริงๆ มันจะทำให้กูมีรายได้เข้ามาโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม แค่สร้างคอนเทนต์เพิ่มซึ่งกูก็ชอบอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ ต้องไม่พึ่งค่าโฆษณาทางเดียวนะ

สุดท้ายแล้ว ถ้ามึงตั้งใจทำให้มันสำเร็จ มันก็สามารถสร้างรายได้ในอากาศได้จริงๆ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาสินค้าฟิสิคัลมากนัก และที่สำคัญ คือ ต้องเลือกสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัดที่สุด ให้ทุกอย่างมันไหลไปตามธรรมชาติ อย่าไปบังคับให้มันเร็วเกินไป ค่อยๆ สร้างมันขึ้นมา และเชื่อว่าในที่สุดผลลัพธ์จะมาหาเอง ทุกวันนี้กูพยายามในหนทางออโตเมชัน และยังเชื่อเสมอมา แต่ถ้าใครเลือกเวย์ต่างจากกู อ่านแล้วไม่ต้องจิตตก คนละเวย์กัน กูชอบเงินในอากาศ ขายไฟล์ ขายของที่อยู่ในอากาศ แต่คนเอาไปใช้งานได้ ดูได้ รับรู้ได้