เลือกที่จะอยู่ในโลกที่ไม่มีการผูกพันอะไรให้ต้องเจ็บปวด

 


เมื่อก่อนกูกลัวมากเลยกับการเลี้ยงสัตว์ มันไม่ได้แค่กลัวว่าจะดูแลมันไม่ได้หรือทำให้มันเจ็บปวด แต่กูกลัวความผูกพันที่มันจะตามมาด้วย กลัวว่าตัวเองจะรักมันจนไม่สามารถปล่อยไปได้ กลัวว่ามันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจนวันหนึ่งต้องจากไป แล้วกูจะทนกับการสูญเสียได้ยังไง คิดแค่ว่า ถ้าไม่ผูกพันเลย ก็จะไม่ต้องเจ็บปวด ไม่ต้องเจอกับความรู้สึกที่มันเจ็บจนเกินจะรับได้

เป็นแบบนี้มานาน จนเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิธีคิด ถ้าไม่ผูกพันกับใครหรืออะไร ก็จะไม่ต้องเสี่ยงที่จะเสียมันไป บางทีเวลามองคนที่มีสัตว์เลี้ยงก็รู้สึกว่า มันคงจะดีนะ มีอะไรที่รักและรักเรากลับ แต่ในใจลึกๆ กูไม่เคยคิดที่จะลอง กลัวมาก กลัวว่าเมื่อไหร่ที่เราผูกพันกับมันไปแล้ว ความเจ็บปวดก็จะตามมาในวันหนึ่ง แล้วจะทำใจไม่ได้ มันไม่คุ้มเลย

โตขึ้นมาหน่อย กูก็เริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้น เข้าใจว่าทำไมกูถึงกลัวอะไรแบบนี้ กลัวการรัก กลัวการผูกพันกับอะไรสักอย่าง เพราะมันไม่เคยมีอะไรที่มั่นคงจริงๆ ทุกอย่างมันมีวันหมดอายุของมัน แล้ววันหนึ่งความเจ็บปวดมันจะต้องมาหาเรา เมื่อเรารักใครหรืออะไร ก็เสี่ยงที่จะเสียมันไป สัตว์เลี้ยงที่เรารักอาจจะจากไปก่อน หรือแม้แต่คนที่เรารักก็อาจจะเดินจากเราไปในวันหนึ่ง

จนสุดท้าย กูเลือกที่จะไม่เลี้ยงสัตว์เลย ไม่อยากผูกพันกับอะไรหรือใคร เพราะกลัวว่ามันจะทำให้เราต้องเจ็บปวดในท้ายที่สุด กูเลือกที่จะอยู่ในโลกที่ไม่มีการผูกพันอะไรให้ต้องเจ็บปวด แม้บางทีจะรู้สึกเหงา แต่ก็ยังคงเลือกที่จะอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ที่ไม่ต้องเผชิญกับความรู้สึกที่ไม่อยากเจอ

แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง กูกลับพบว่าการหลีกเลี่ยงไม่ได้ทำให้เรารอดจากความเจ็บปวดเลย ในที่สุดความเจ็บปวดก็ยังคงตามมาไม่ว่าเราจะทำตัวนิ่งเฉยแค่ไหน ก็ยังคงมีสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดได้ในทุกๆ วัน บางทีมันก็ไม่ได้มาในรูปแบบของการสูญเสีย แต่มาในรูปแบบของความเหงา ความรู้สึกว่าขาดอะไรไป ขาดความรัก ขาดความผูกพันที่มันทำให้เราเต็มใจจะเสี่ยงกับความเจ็บปวด

กูเริ่มสงสัยแล้วว่า การหลีกเลี่ยงการรัก การผูกพัน ไม่ได้ช่วยให้เรารอดพ้นจากความเจ็บปวด มันแค่ทำให้เราต้องเจอกับความเหงาและความว่างเปล่าแทน ถ้าคิดให้ดี การที่จะรัก หรือผูกพันกับอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่เรื่องผิดหรืออันตราย แต่การยอมรับว่ามันจะมีความเจ็บปวดในบางครั้ง ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่จะรัก และยอมรับชีวิตแบบที่มันเป็น

ถึงวันนี้ กูก็ยังไม่รู้ว่า วันหนึ่งจะมีใครหรือสิ่งไหนที่กูจะสามารถผูกพันได้อย่างเต็มที่หรือไม่ แต่มันคงถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับว่า ความเจ็บปวดมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราจะหามันได้จากการรักหรือจากการไม่รัก แต่ในที่สุดเราก็จะต้องเผชิญกับมันอยู่ดี คงเหมือนกับการที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดได้ในสักวันหนึ่ง และอาจจะเป็นความเจ็บปวดที่ทำให้เราเติบโตและเข้าใจตัวเองมากขึ้น.

แต่สุดท้าย กูไม่ได้เลือกความรัก เพราะมันมีเรื่องของอาการเจ็บป่วย กูก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ความรักถึงทำให้กูเจ็บหนักจนเข้าร.พ.ทุกครั้ง มันเหมือนกับว่าในทุกๆ ครั้งที่กูพยายามเปิดใจ หรือยอมรับใครสักคนเข้าไป มันกลับกลายเป็นว่ากูต้องเจอกับความเจ็บปวดที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง มันไม่ได้แค่เจ็บทางกาย แต่เจ็บลึกลงไปถึงจิตใจจนไม่รู้จะหาทางออกยังไง

ในโลกนี้ ไม่มีคนที่คิดจะรัก หรือทะนุถนอมกูแบบที่คนรักทำกัน มันเหมือนกับว่าไม่มีใครเข้าใจจริงๆ ว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมันมาจากไหน หรือมันเป็นเพราะพฤติกรรมกูเองที่ทำให้ทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้? บางทีอาจจะเป็นแค่กูที่คิดว่ารักมันต้องทำให้เรารู้สึกดี แต่ทุกครั้งที่กูพยายามรัก มันกลับทำให้กูรู้สึกเหมือนถูกทิ้งในที่ที่ไม่มีใครเข้าใจ

กูอยากให้มีคนรักที่รักกูแบบที่กูต้องการ แต่ตอนนี้กูยังไม่สามารถหาคนที่เข้าใจได้เลย มันเหมือนกับว่า ความรักที่ดีๆ มันไม่เคยเกิดขึ้นกับกูจริงๆ หรือมันอาจจะเป็นเพราะกูเองที่ไม่เคยรู้จักวิธีที่จะรักตัวเองก่อนบ้าง หรืออาจจะไม่เคยเรียนรู้ที่จะยอมรับความรักจากคนอื่นให้ดีพอ

ในที่สุด กูคงต้องหาคำตอบให้ตัวเองต่อไป ว่าทำไมความรักถึงทำให้กูเจ็บปวดตลอดเวลา หรือมันเป็นแค่เพราะกูกลัวมันไปเอง

แต่สุดท้ายกูก็เลือกที่จะเดินออกจากความรัก มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย เพราะกูเคยเชื่อว่าความรักมันจะทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์ แต่มันกลับกลายเป็นว่า ความรักทำให้กูเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ การเดินออกจากความรักไม่ใช่การหลีกหนีจากสิ่งดีๆ แต่มันคือการเลือกที่จะไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่ในวงจรของความเจ็บปวดที่ไม่สิ้นสุด

กูเริ่มรู้สึกว่า บางครั้งการรักตัวเองมันสำคัญกว่าการรักใครสักคน มันถึงเวลาที่กูต้องหันกลับมามองตัวเอง และให้ความสำคัญกับการรักษาบาดแผลในใจที่ไม่ได้รับการเยียวยามานาน ทุกครั้งที่กูยอมให้ตัวเองรักใคร กูก็ต้องเสียบางอย่างไป มันทำให้กูรู้สึกเหมือนว่า กูไม่ได้แค่สูญเสียความรักจากคนอื่น แต่กูยังสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเองไปด้วย

การเดินออกจากความรักในครั้งนี้มันเหมือนกับการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พักจากความรู้สึกที่หนักหน่วงนี้ ได้มองชีวิตในมุมที่กูยังไม่เคยเห็น การเดินออกจากมันไม่ได้หมายความว่ากูไม่อยากรักอีก แต่หมายความว่า กูต้องการเวลาเพื่อค้นหาความรักในรูปแบบที่กูสามารถให้ตัวเองได้ก่อน

บางทีการหยุดพักจากความรัก มันอาจจะทำให้กูเข้าใจตัวเองมากขึ้น และเมื่อถึงเวลาที่พร้อม กูอาจจะกลับมาหาความรักในรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องทำให้กูเจ็บปวดเหมือนที่ผ่านมาและแน่นอนมันอาจจะเป็นการรักตัวเองอย่างแท้จริงในที่สุด

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม