"กูอยากสวยบางวัน บางวันก็อยากหล่อ ไม่ได้เหรอวะ?"
"กูอยากสวยบางวัน บางวันก็อยากหล่อ ไม่ได้เหรอวะ?"
แล้วกูก็จะเจอคนประเภทที่ชอบบอกว่า "มึงเป็นผู้หญิง กูเห็นมึงทาปากส้ม ปากแดงนะ"
หรือไม่ก็ "มึงเคยชอบผู้ชาย มึงเป็นผู้หญิงดิ จะมาบอกว่า Non-binary ทำไม?"
คืออะไรอะ? กูต้องแปะป้ายตัวเองตลอดเวลาหรือไงวะ? กูแม่งงง
แค่กูเคยชอบผู้ชาย = เป็นผู้หญิง?
แค่กูใส่กระโปรงวันหนึ่ง = เป็นผู้หญิง?
แล้วทำไมวะ?
มึง กูอยากสวยบ้างบางวัน กูอยากแต่งหน้า อยากใส่กระโปรง อยากดูดีในแบบที่กูอยากเป็น แต่บางวันกูก็อยากแต่งตัวแมนๆ ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงตัวโคร่ง เท่ๆ คูลๆ บ้าง แล้วมันผิดตรงไหน?
"อ้าว แล้วตกลงมึงเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่วะ?"
กูเป็นตัวกูเองไงมึง!!
มันจำเป็นต้องเลือกตลอดเวลาเหรอวะ? มันจำเป็นต้องมี "ข้าง" ที่ชัดเจนตลอดเวลาเหรอ? กูแค่ชอบการเป็นกูในแบบที่กูสบายใจ กูไม่ได้จะเอาตัวเองไปฟิตลงในกฎไหนทั้งนั้น
บางวันกูอยากตื่นมาแต่งหน้า กูอยากปัดแก้มสีชมพู ทาลิปแดง ใส่เดรสสวยๆ เดินออกไปข้างนอกให้รู้สึกมั่นใจ
แต่บางวันกูตื่นมาแล้วแม่งอยากใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว พับแขนขึ้น ใส่กางเกงยีนส์ตัวโคร่งๆ ลุคเท่ๆ สบายๆ แบบที่กูชอบ
แล้วมันแปลว่ากูต้องเลือกเพศตัวเองใหม่ทุกวันเหรอ? ไม่ใช่เว้ย!!
กูเป็นกูไง กูอยากแต่งตัวแบบไหนกูจะแต่ง กูอยากสวยก็สวย กูอยากหล่อก็หล่อ มันเป็นเรื่องของความรู้สึก มันไม่ใช่ข้อบังคับของเพศเว้ย!
"สังคมแม่งตีกรอบไปเอง แล้วทำไมกูต้องเข้าไปอยู่ในกรอบนั้นวะ?"
แค่ผู้ชายแต่งหน้า = ผิด?
แค่ผู้หญิงแต่งตัวแมนๆ = แปลก?
แค่กูไม่อยากนิยามตัวเองว่าเป็นหญิงหรือชาย = ต้องอธิบายให้คนอื่นเข้าใจตลอดเวลา?
ไม่เว้ย กูไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองให้ใครเข้าใจ
"สุดท้ายแล้ว แม่งก็เป็นเรื่องของตัวเอง"
มึงอยากแต่งตัวยังไงก็แต่ง มึงอยากนิยามตัวเองว่าอะไรก็นิยาม เพราะแม่งเป็นเรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องของใครทั้งนั้น
อ่ะ มาถึงเรื่องการอะโลฮ่าปาจิงโกะละ
"หรือมันไม่ได้วะ? ชอบแล้วไม่ได้อยากอะโลฮ่ามันผิดปกติขนาดนั้นเลยเหรอ?"
กูงงกับสังคมชิบหาย มึงเคยได้ยินคำพูดพวกนี้ปะ?
"มึงชอบเขาแล้วทำไมไม่อยากอะโลฮ่า?"
"ถ้าไม่อยากอะโลฮ่ากับเขา แล้วมันจะเป็นความรักได้ไง?"
"มึงก็แค่เพื่อนกันปะวะ ถ้าไม่ได้อะโลฮ่ากัน?"
เอ้า กูชอบก็คือชอบดิวะ! แล้วทำไมต้องมีอะโลฮ่าเป็นเครื่องพิสูจน์ด้วยว่ากูรักเขาจริง?
"รักที่ไม่มีอะโลฮ่า = แค่เพื่อน?"
"แฟนกันต้องอยากอะโลฮ่ากัน ไม่งั้นไม่นับเป็นความรัก?"
ใครตั้งกฎเหี้ยนี่ขึ้นมา?
"Asexual ไม่ได้แปลว่าเย็นชาเว้ย"
มึง กูไม่ได้เย็นชา ไม่ได้ไร้อารมณ์ ไม่ได้รังเกียจความรัก แต่สำหรับกู ความรักมันไม่จำเป็นต้องมีอะโลฮ่าเสมอไป กูสามารถตกหลุมรักใครซักคนได้ กูอยากดูแลเขา กูอยากใช้เวลาด้วยกัน กูอยากกอด อยากจูบ อยากซบหัวแม่งตอนดูหนัง อยากมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แต่กูแค่ ไม่ได้รู้สึกว่ามันต้องจบลงที่อะโลฮ่าเสมอไป
แต่คนแม่งชอบคิดว่า "อ้าว ถ้าไม่อยากอะโลฮ่ากับเขา มึงก็คบเป็นเพื่อนกันดิ?"
เอ้าแล้วความรู้สึกกูที่มันเกินเพื่อนนี่มึงจะให้เรียกว่าอะไร?
กูมีความรัก มีความผูกพัน กูอยากให้เขาเป็น "คนพิเศษ" ในชีวิตกู แต่กูแค่ ไม่ได้มีแรงดึงดูดทางอะโลฮ่าไปหาเขา แค่นั้นเอง
มึงเคยอยากอยู่กับใครสักคนไปตลอดชีวิตปะ? แต่ไม่ได้อยากอะโลฮ่ากับเขา ไม่ได้อยากมีอะไรที่มันไปไกลกว่าการกอด การจูบเบาๆ หรือการจับมือ แต่มึงก็รู้สึกว่า "นี่คือความรักของกู"
นั่นแหละ กูเป็นแบบนั้น
"ความรักมีหลายรูปแบบว่ะ"
สังคมแม่งชอบทำให้เรื่องอะโลฮ่ากลายเป็นมาตรฐานของทุกความสัมพันธ์ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เว้ย
มีคนที่รักกันแบบโรแมนติก แต่ไม่ต้องมีอะโลฮ่า
มีคนที่อยู่กันไปทั้งชีวิตแบบคู่ชีวิต แต่ไม่ได้ต้องมีอะโลฮ่ากัน
มีคนที่อะโลฮ่ากับใครก็ได้ แต่ไม่ได้รักใครเลยก็มี
แล้วทำไมกูจะไม่สามารถ "รัก" ใครสักคนโดยไม่ต้องอะโลฮ่าได้วะ?
กูไม่ได้ผิดปกติ กูไม่ได้พัง กูไม่ได้ขาดอะไร กูแค่เป็นกู
"สุดท้ายแล้ว มันคือเรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของใคร"
ถ้ากูจะรักใครซักคนโดยที่ไม่อยากอะโลฮ่า กูกับเขาตกลงกันได้ แฮปปี้กันดี แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนอื่นวะ? ความรักของกู มันไม่ต้องอยู่ในมาตรฐานของใครทั้งนั้น
มึงจะเป็นยังไงก็เป็นไปเหอะ ขอแค่มึงเข้าใจตัวเอง และอยู่กับมันอย่างมีความสุขก็พอ
กูไม่สนแล้วว่าใครจะมองว่ายังไง กูแค่เป็นกู และกูแม่งโคตรมีความสุขกับมันนะวันนี้น่ะ ฮ่าๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น