ระดับของการรักผลงานตัวเอง = ระดับที่เราจะไปถึง
ระดับของการรักผลงานตัวเอง = ระดับที่เราจะไปถึง
ในโลกของคนสร้างสรรค์ มีอยู่สิ่งหนึ่งที่มักถูกประเมินค่าต่ำเกินไป
นั่นคือ “ระดับที่เรารักผลงานของตัวเอง”
ใครๆ ก็พูดถึงความสามารถ เทคนิค ความขยัน หรือแม้แต่โชค
แต่สิ่งที่เงียบงันและทรงพลังมากที่สุด…กลับเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสอนชัดเจน
คือ “วิธีที่เรามองงานของตัวเอง”
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องความหลงตัวเอง แต่มันคือ “ความสัมพันธ์ที่เรามีกับสิ่งที่เราสร้าง”
1. ไม่รักเลย – เดินได้แค่ไม่กี่ก้าว
คนที่มองผลงานตัวเองด้วยสายตาตัดสินตลอดเวลา
“ยังไม่ดีพอ”
“ดูไม่ได้เลย”
“น่าอาย”
…จะไม่มีวันได้รู้เลยว่า งานนั้นมีพลังอะไรซ่อนอยู่
และเมื่อเราไม่เชื่อในคุณค่าของสิ่งที่เราทำ
เราก็จะไม่มีแรงผลักดันใดๆ ที่จะส่งมันออกไป
ไม่มีแรงจะต่อยอด
ไม่มีแรงจะเรียนรู้
เพราะจิตใจถูกสกัดก่อนที่ฝีมือจะได้พัฒนา
2. รักแบบมีเงื่อนไข – เติบโตได้ แต่ไม่สุด
“งานนี้โอเคนะ แต่เทียบกับคนอื่นยังไม่ถึง”
“เราวาดได้ดีขึ้น แต่มันก็แค่โชคดีแหละ”
นี่คือคำพูดของคนที่เริ่มมีไฟ เริ่มเห็นแสงบางอย่างในตัวเอง
แต่ยังติดกับดักของการเปรียบเทียบ
พัฒนาขึ้น แต่ไม่มั่นใจ
ขยันขึ้น แต่ไม่กล้าฉลอง
คนกลุ่มนี้จะเติบโตได้ แต่เป็นการเติบโตที่เหนื่อย
เหมือนเดินขึ้นเขาโดยไม่เคยหันกลับไปดูวิวเลยว่าตัวเองมาไกลแค่ไหน
3. รักอย่างเข้าใจ – ขยายศักยภาพได้ไม่จำกัด
ระดับนี้ไม่ได้หมายถึงการหลงตัวเอง
แต่คือการเห็นคุณค่าในงานทุกชิ้นที่เราทำ
ไม่ว่ามันจะเป๊ะหรือไม่
เพราะเรารู้ว่า "ทุกชิ้นคือหลักฐานของการเดินทาง"
คนที่รักผลงานตัวเองแบบนี้
จะกล้าทดลอง
จะกล้าผิดพลาด
จะกล้าสื่อสาร
และจะกล้า “เป็นตัวเอง” อย่างชัดเจนที่สุด
ซึ่งนั่นแหละ คือสิ่งที่โลกต้องการจากศิลปิน
ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในห้อง
แต่คือคนที่จริงที่สุดในสิ่งที่ตัวเองทำ
บทสรุป
ฝีมือพัฒนาได้ด้วยการฝึก
แต่พลังของงาน…พัฒนาได้จากความสัมพันธ์ที่เรามีกับมัน
ถ้าคุณอยากไปให้ไกลในเส้นทางนี้
อย่ารอให้ผลงาน “ดีพอ” ก่อนจะรักมัน
เพราะที่จริงแล้ว
การที่คุณ “รักมัน”
คือเหตุผลที่มันจะ “ดีขึ้น” ทุกวัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น