ทำไมบางครั้งเรายังวาดมืออยู่ ในวันที่โลกมีเอไอ
เราไม่ได้วาดเพื่อรับงาน หรือขายภาพ หรือแข่งกับใคร
เพราะถ้าจุดหมายคือรายได้ หรือความเร็วในการผลิตผลงาน
เรารู้ว่ามีเส้นทางอื่นที่เหมาะกับตัวเรามากกว่านั้น และเราก็กำลังเดินอยู่บนทางนั้นอย่างตั้งใจ
แต่เราก็ยังวาดมืออยู่
ไม่ใช่เพราะดื้อ
ไม่ใช่เพราะโหยหาอดีต
ไม่ใช่เพื่อยึดถืออะไรที่ “ต้องเป็นแบบเดิม”
แต่เพราะมันคือประสบการณ์บางอย่างที่เทคโนโลยียังแตะไม่ถึง
เสียงเสียดสีของดินสอกับกระดาษ กลิ่นของสมุดที่เก็บมานาน รอยมือที่เลอะไปด้วยฝุ่นถ่าน
จังหวะการหายใจตอนที่กำลังขีดเส้นอย่างเงียบงัน —
ทั้งหมดนี้คือการได้ “อยู่กับตัวเอง” อย่างลึกซึ้งที่สุดรูปแบบหนึ่ง
เรายังวาดมือ เพราะศิลปะสำหรับเราไม่เคยมีแค่เป้าหมายเดียว
ไม่ใช่แค่ "ภาพที่เสร็จ" แต่คือ "กระบวนการที่เกิดขึ้นระหว่างทาง"
และการได้สร้างบางสิ่งด้วยมือของตัวเอง ยังเป็นความสุขที่แทบไม่มีอะไรทดแทนได้
แต่ในขณะเดียวกัน เราก็เลือกใช้ AI อย่างจริงจัง
เพราะเรามองว่า AI ไม่ได้ทำลายศิลปะ — มันแค่เปิดอีกภาษาในการสื่อสาร
โดยเฉพาะเมื่อเราทำงานในรูปแบบมิวสิควิดีโอ ที่ภาพ เสียง อารมณ์ และเวลา ต้องประสานกันอย่างแม่นยำ
เราจึงต้องการ “ความเร็ว” ในการแปลงจินตนาการให้กลายเป็นภาพ
AI จึงไม่ใช่ทางลัด แต่เป็น “ภาษาภาพแบบใหม่” ที่ตอบโจทย์เราในช่วงเวลานี้
เราไม่ได้ใช้ AI เพราะขี้เกียจวาด
แต่เพราะเรารู้ว่า เวลาในชีวิตมีจำกัด
และเรามีเรื่องราวอยากเล่าอีกมากมาย
ที่อยากให้คนดู "ได้เห็น" และ "ได้รู้สึก" ไปพร้อมกัน
AI ทำให้เราทำ MV ได้ในแบบที่ฝันไว้
มันเป็นเครื่องมือที่เราคุมมัน — ไม่ใช่มันคุมเรา
และมันไม่เคยลดคุณค่าของงานที่เราวาดมือเลย
เพราะทุกภาพที่เราสร้าง ไม่ว่าจะด้วยมือหรือด้วย AI
ต่างก็เกิดจาก “ความตั้งใจ” แบบเดียวกัน
สุดท้าย เราไม่ได้คิดว่า AI ดีกว่ามนุษย์
หรือมนุษย์ต้องดีกว่า AI
เราคิดแค่ว่า... ทุกเครื่องมือมีจังหวะของมัน
เหมือนดินสอพอเหมาะกับบางวัน
แต่บางวันก็ต้องใช้แสง ความเร็ว และปัญญาประดิษฐ์
เพื่อถ่ายทอดบางอย่างที่ใจเราอยากบอกให้ทันเวลา
ศิลปะ... ไม่ใช่การแข่งขันว่าใครใช้เครื่องมืออะไร
แต่มันคือความจริงใจที่ส่งออกไปจากคนสร้าง
ไม่ว่าจะวาดด้วยมือ หรือด้วยคลิกเดียวของเมาส์ —
ถ้ามันสื่อสารถึงคนดูได้
มันก็คืองานศิลปะเหมือนกัน
“มีประแจ…ไม่ได้แปลว่าเป็นช่าง”
“มี AI…ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นศิลปิน”
เครื่องมือ ไม่เคยเป็นตัวตัดสินตัวตนของคน
เพราะเครื่องมือ เป็นเพียง "สิ่งที่ใช้"
ไม่ใช่ "สิ่งที่เป็น"
ประแจอยู่ในมือของช่าง ก็สร้างรถได้
แต่ถ้าอยู่ในมือคนที่ไม่เข้าใจเครื่องยนต์ มันก็แค่เหล็กชิ้นหนึ่ง
เช่นเดียวกับ AI —
ต่อให้สร้างภาพได้เป็นพัน
ถ้าไร้แนวคิด ไร้อารมณ์ ไร้ความหมาย
มันก็แค่ “ภาพที่ดูเหมือนศิลปะ” แต่ไม่ใช่ศิลปะจริงๆ
AI คือเครื่องมือ
ที่ช่วยให้เราสื่อสารได้เร็วขึ้น
กว้างขึ้น
และบางครั้ง…แม่นยำขึ้น
แต่สิ่งที่ทำให้ “งาน” เป็น “งานศิลปะ” จริงๆ
คือความตั้งใจ ความเข้าใจ และหัวใจของคนทำ
อย่ากลัว AI ว่าจะแย่งที่ศิลปิน
และอย่าหลง AI จนลืมว่าอะไรคือแก่นของงานสร้าง
สุดท้ายแล้ว...
ศิลปะไม่เคยขึ้นอยู่กับสิ่งที่อยู่ในมือ
แต่มันขึ้นอยู่กับ “สิ่งที่อยู่ในใจ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น