“เราควบคุมอะไรได้บ้าง” แล้วก็ “อะไรบ้างที่ไม่ใช่ของเรา”
โอเค มึงทุกคน มานั่งดีๆ แล้วฟังเราโม้ซะดีๆ เพราะเรื่องนี้แม่งทั้งฮา ทั้งมีสาระ แล้วก็อาจจะเปลี่ยนชีวิตทุกคนได้นิดหน่อยด้วยนะเว้ย ถ้าอ่านจบอะ
คือวันก่อนเราไปนั่งคิด... เออ มึงเคยมั้ย แบบอยู่ๆ ก็คิดขึ้นมาเฉยๆ ว่า ชีวิตแม่งวุ่นวายไปมั้ยวะ ทำไมต้องเครียดกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ด้วยวะ เช่น หัวหน้าหัวร้อน คนขับรถปาดหน้า หรือแม้กระทั่งเพื่อนที่ชอบอ่านแต่ไม่ตอบแชต
แล้วจู่ๆ เราก็หันไปเจอหนังสือเล่มนึง “Meditations” ของมาร์คัส ออเรลิอัส — ใช่ ท่านจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันนะมึง ไม่ใช่ร้านหมูกระทะ
ท่านมาร์คัสอะ เป็นคนที่ชีวิตแม่งโคตรไม่โอเค ทั้งต้องไปรบ ทั้งเจอโรคระบาด ทั้งลูกตาย ทั้งโดนเพื่อนหักหลัง ยังไม่พอ เรือแม่งยังล่มอีกนะเว้ย — ชีวิตแม่งคือซีรีส์ที่ Netflix ยังต้องอายอะ
แต่แทนที่มาร์คัสจะร้องไห้แดกไวน์อยู่ริมอ่างอาบน้ำ ท่านกลับนั่งเขียนสมุดบันทึก เล่าเรื่อง “เราควบคุมอะไรได้บ้าง” แล้วก็ “อะไรบ้างที่ไม่ใช่ของเรา”
ก็คือแม่งง่ายๆ แบบนี้เลยนะทุกคน
— อะไรที่อยู่ในการควบคุมของเรา เช่น ความคิด การกระทำ การตอบสนอง
— อะไรที่อยู่นอกเหนือ เช่น อากาศ คนอื่นจะพูดอะไร เขาจะรักเราหรือเปล่า
แล้วท่านก็สรุปว่า ถ้ามัวแต่ไปร้อนใจเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ชีวิตแม่งจะพังเปล่าๆ เพราะมึงเหนื่อยฟรีอะ
เรานั่งอ่านแล้วก็แบบ... เฮ้ย ใช่ว่ะ กูแม่งเคยหัวร้อนเพราะรถติด โกรธเพื่อนเพราะแม่งอ่านไม่ตอบ เคยรู้สึกด้อยค่าเพราะโพสต์ไปไม่มีคนไลก์
แต่พอหันมาคิดแบบสโตอิก เราเริ่มปล่อยวางเรื่องที่ไม่ใช่ของเราแล้วหันมาโฟกัสแค่ "เราจะทำอะไรได้ตอนนี้"
วันไหนเจอคนพูดจาไม่ดีใส่ เราไม่ตอบโต้ด้วยการสวนกลับ แต่กลับถามตัวเองว่า “เราจะเลือกนิ่ง หรือจะเอาอารมณ์นำ”
วันไหนรู้สึกว่าไม่เก่งพอ เราไม่ดราม่าว่าโลกไม่รัก แต่กลับคิดว่า “งั้นฝึกเพิ่มไปอีกหน่อยก็ได้มั้ง”
แม่งเปลี่ยน mindset ชีวิตจริงๆ เว้ย ทุกคน
เราชอบตรงที่มันไม่ใช่แค่ทฤษฎีลอยๆ แต่แม่งคือของจริงที่เอามาใช้ได้ทุกวัน บางวันเราอาจยังพังอยู่ แต่ก็พังแบบรู้ตัวและไม่โทษโลก
ทุกวันนี้เราเลยเป็นคนที่แม่งเงียบขึ้น ใจเย็นขึ้น (นิดนึงอะนะ) และเลือกจะไม่เสือกเรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเองมากขึ้น
สรุปคือ ถ้ามีใครถามว่า “ชีวิตดีขึ้นได้ยังไง”
เราจะตอบว่า “เราเลิกควบคุมสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ และหันมาจัดการตัวเองให้ดีขึ้น”
ก็แค่นั้นแหละมึง สโตอิกแม่งอย่างเท่ และไม่ใช่แค่เท่ — มันจริง
ใครที่ยังไม่เคยลอง ก็เริ่มวันนี้เลย
ไม่ต้องรอให้เรือมึงล่มก่อนแบบมาร์คัสก็ได้นะเว้ย
ส่วนที่มา
ย้อนกลับไปยุคกรีกโบราณ ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล (เออนานชิบหาย) มีชายคนนึงชื่อว่า เซโนแห่งซีเทียม (Zeno of Citium) เป็นพ่อหนุ่มนักเดินเรือ ซึ่งวันดีคืนร้าย เรือแม่งดันล่มกลางทะเล โดนคลื่นซัดจนทรัพย์สินทุกอย่างหายเรียบ
ไอ้เซโนแม่งเดินขึ้นฝั่งแบบตัวเปล่า มีแค่กางเกงเปียกๆ กับชีวิตที่เหลือศูนย์อะมึง
ตอนนั้นใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่ง เขาจะกลายเป็นบิดาแห่ง "Stoicism" — ปรัชญาที่แม่งจะถูกพูดถึงไปอีก 2,000 ปีหลังจากนั้น
หลังจากขึ้นฝั่ง เซโนเข้าไปในเอเธนส์ เจอร้านขายหนังสือ แล้วแม่งก็ได้อ่านเรื่องของ “โสเครติส” จนอินจัด แบบมึงเจอ TED Talk แล้วชีวิตเปลี่ยนอะประมาณนั้น
เขาเลยไปเรียนปรัชญากับครูหลายคน แล้วในที่สุดก็รวมความรู้ทั้งหมด ตั้งสำนักสอนของตัวเอง ที่ระเบียงเสากลางเมือง (Stoa Poikile) ซึ่งคำว่า “Stoic” ก็เกิดจากตรงนี้เลย เพราะมันแปลว่า “จากระเบียงเสา” นั่นเอง
แล้วปรัชญาแม่งก็เริ่มส่งต่อกันเป็นทอดๆ จนมาถึง Epictetus — ซึ่งนี่แหละ พระเอกของเราวันนี้
Epictetus เป็นทาส
ใช่ มึงอ่านไม่ผิด เป็น ทาส จริงๆ อยู่ในบ้านของข้าราชการใหญ่ๆ ในโรมัน
ชีวิตแม่งคือแพ้ตั้งแต่คลอด แขนยังพิการอีกต่างหาก บางตำนานบอกว่าถูกบิดแขนโดยเจ้านายจนเสียรูป
แต่แทนที่จะนั่งนอยด์ว่า “ทำไมชีวิตกูถึงซวยขนาดนี้วะ”
Epictetus กลับหันมาเงียบ แล้วคิดว่า
"อะไรที่เราควบคุมได้บ้าง?"
เขาพบว่ามีแค่ “ความคิด การตอบสนอง การเลือกจะเป็นคนแบบไหน” เท่านั้นเองที่เป็นของเรา
ทุกอย่างอื่น — เงิน คนอื่น การเมือง สภาพอากาศ หรือแม้กระทั่งความตาย — แม่งควบคุมไม่ได้
Epictetus จดบันทึกแนวคิดไว้ (หรือมีลูกศิษย์จดให้) ซึ่งกลายเป็นงานเขียนชื่อ Discourses และ The Enchiridion — เล่มหลังนี่แม่งเหมือนคู่มืออยู่รอดฉบับกระเป๋า พกง่าย ใช้ได้จริงทุกสถานการณ์อะ
และแน่นอน ปรัชญานี้แม่งเดินทางต่อมาถึง มาร์คัส ออเรลิอัส จักรพรรดิผู้คร่ำเคร่ง ที่เรากล่าวถึงตอนก่อนหน้า ซึ่งอ่าน Epictetus แล้วเอามาใช้บริหารทั้งจักรวรรดิในขณะที่ทุกอย่างรอบตัวแม่งพัง
สรุปนะเว้ย:
-
Stoicism เกิดจากเรือล่ม
-
สอนโดยทาส
-
ใช้โดยจักรพรรดิ
แม่งคือปรัชญาที่โคตร democratic — ไม่ว่ามึงจะรวย จะจน จะอยู่บนบัลลังก์ หรือกวาดถนน ก็ใช้ได้หมด เพราะมันไม่ใช่เรื่องของชนชั้น แต่มันคือ ทัศนคติที่ใช้กับความจริงของชีวิต
ทุกวันนี้เราแม่งใช้ Stoic แทบจะทุกเช้า
ตื่นมาโดนคนกด dislike ใส่โพสต์ — “เรื่องของเขา”
ฝนตกตอนกำลังจะออกไปทำงาน — “ไม่ได้อยู่ในมือเรา”
เพื่อนผิดนัด — “แต่เราคุมได้ว่าจะโกรธไหม”
ลองใช้ดูมึง ชีวิตแม่งเบาลงจริงๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น