แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นศิลปิน
“แบบนี้ไม่เรียกศิลปิน"
เราไม่รู้จะขำหรือถอนหายใจดี
แต่ที่แน่ๆ คือมันทำให้เรานึกถึงประโยคหนึ่งที่เคยได้ยิน
“ของจริงไม่ต้องพิสูจน์ตัวเอง…แต่มักโดนทดสอบตลอดเวลา”
แล้วเราก็ย้อนมาถามตัวเองว่า
เออ แล้วของจริงมันต้องหน้าตาแบบไหน?
คนที่โพสต์ทุกวันแต่หมดไฟทุกเดือน
กับคนที่ปล่อยช้าแต่สะเทือนอารมณ์จนคนอินถึงชาติที่แล้ว
ใครคือของจริง?
จนเรากลับมานั่งดูโปรไฟล์ของตัวเอง
Trader / Deal Maker / Accumulator
กับ Sacred Money Archetype: Alchemist – Romantic – Connector
แถม Life Path เลข 7 ที่มาคู่กับคำถามชีวิตตั้งแต่ยังฟันน้ำนมไม่ร่วง
พอรวมกันหมด เราเลยเข้าใจว่า
เราน่ะไม่ได้เกิดมาเพื่อ “ทำงานให้เสร็จตาม KPI”
แต่เกิดมาเพื่อ “เปลี่ยนความรู้สึกของคนผ่านศิลปะ”
Trader = ต้องมีจังหวะ ต้องตรง vibe
Deal Maker = ต้องมี connection ไม่ใช่แค่ content
Accumulator = ต้องเห็นระบบ ต้องมีภาพรวมก่อนขยับ
Dynamo = ต้องมีของ ต้องเล่นใหญ่ ต้องมีแรงบันดาลใจ
พอมาเจอเลข 7 ที่เป็นสาย “นักค้นหา”
คือเราไม่ได้อยากแค่หาเงิน…แต่อยากหาความหมาย
ไม่ได้อยากแค่เล่าเรื่อง…แต่อยากให้เรื่องนั้น “ส่งผล” บางอย่างต่อชีวิตคนดู
เราเลยเริ่มเข้าใจว่า
คนอย่างเราจะสร้างรายได้ได้ดีที่สุด
ไม่ใช่ด้วยการตะโกนว่า “ซื้อหน่อย!”
แต่ด้วยการวางพลังแม่เหล็กไว้ แล้วรอคนที่ใช่ “เดินมาเจอเอง”
เราไม่ได้ขายของ
เรา “เสนอความรู้สึกที่เค้าหลงลืมไปนานแล้ว”
รายได้ที่มั่นคงของเราจึงต้องไม่มาจากการ “เร่งสปีด”
แต่มาจากการ “สร้างระบบที่พอดี” กับธรรมชาติของตัวเอง
AI ไม่ได้ทำให้เราขี้เกียจ
แต่มันคือเครื่องมือที่ช่วยให้เราได้ “จูนกับจังหวะในหัว”
และใช้แรงในสิ่งที่สำคัญจริงๆ
งานศิลปะมันไม่มีวันปลอม
ถ้ามันทำให้ใครบางคนหยุดนิ่งกลางวันแย่ๆ ได้
ไม่ว่าเราจะใช้พู่กัน กล้อง หรือคีย์บอร์ด
ใครจะมองยังไงก็ช่าง
เพราะสุดท้าย…เรารู้ว่า
เรากำลัง “เปลี่ยนความว่างเปล่าให้มีความหมาย”
ในแบบที่เราเกิดมาเพื่อทำแบบนั้นโดยเฉพาะ
ลองถามตัวเองว่า
ตอนนี้…เรากำลังพยายาม “หาเงินด้วยวิธีของคนอื่น”
หรือ “ใช้ความเป็นตัวเองให้เงินมันหาเรา?”
บางที…คำตอบที่ตรงที่สุด
ไม่ได้อยู่ในสูตรสำเร็จ
แต่มันอยู่ในศิลปะที่เรายังกล้าเชื่อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น