“ความสำเร็จที่ต้องหามาในที่ที่คนทั่วไปไม่ไป”

“ความสำเร็จที่ต้องหามาในที่ที่คนทั่วไปไม่ไป”




วันก่อนเจอข่าวนักกีฬาโอลิมปิกหญิงของเยอรมนี—Laura Dahlmeier—ประสบอุบัติเหตุระหว่างปีนเขาในปากีสถาน โดนหินถล่มใส่ ขึ้นไปสูงเกือบ 5,700 เมตร ต้องรอเฮลิคอปเตอร์ช่วยข้ามคืน เพราะอากาศแย่จนบินไม่ได้

ข่าวนี้ไม่ได้ขึ้นหน้าหนึ่งในไทยหรอก แต่เราอ่านแล้วสะดุด

คำถามคือ—คนที่เคยยืนบนโพเดียม ได้เหรียญทองโอลิมปิกระดับโลกแล้ว ยังต้องไปเสี่ยงตายทำไมอีก?

ทุกคนเคยถามตัวเองมั้ยว่า “เมื่อเราชนะไปแล้ว เราจะยังไปต่อเพื่ออะไร?”

มันเหมือนกับนักธุรกิจบางคนที่ขายกิจการไปเรียบร้อย รวยแล้ว ไม่ต้องทำอะไรอีกก็ได้ แต่กลับเปิดบริษัทใหม่ หรือคนที่ปลดหนี้แล้ว ดันไปกู้ใหม่เพื่อลงทุนต่อ ทั้งที่ไม่มีใครบังคับ

เรื่องแบบนี้ถ้าอธิบายด้วยภาษาวิทยาศาสตร์ มันคือ “Dopamine Loop” สมองของเราจะจำรสชาติของชัยชนะ ความเสี่ยง ความหวาดเสียว แล้วกระซิบเบาๆ ว่า “เอาอีกสิ”

ในพุทธศาสนาเรียกสิ่งนี้ว่า “ตัณหา” หรือ “ความกระหาย” ไม่ใช่แค่ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส แต่รวมถึง ภาวะความรู้สึกจากการ ‘พิชิต’ บางสิ่งบางอย่างในใจเรา

ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ใช่เรื่องผิด

มนุษย์เราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ “อยู่นิ่ง” หรือ “หยุดพัฒนา” แค่พอใจในสิ่งที่มี แล้วไปนั่งพับเพียบอยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ตลอดชีวิต มันเป็นจินตนาการของหนังโฆษณา ไม่ใช่ระบบประสาทจริงของมนุษย์

Laura ไม่ใช่แค่แชมป์กีฬา เธอเป็นนักปีนเขาที่ “ปีนด้วยเหตุผลเดียวกับที่เธอเคยยิงเป้าด้วยปืนไรเฟิลกลางพายุหิมะ” คือเพื่อค้นหาตัวเองอีกครั้ง ในระดับใหม่ ที่สูงกว่าเดิม ในสนามที่ไม่มีเสียงเชียร์

สนามที่ไม่มีเหรียญ ไม่มีโพเดียม ไม่มีสปอนเซอร์ มีแต่อากาศบาง หินหล่น และต้องกดเบอร์ขอความช่วยเหลือด้วยมือที่เลือดซึม

ทุกคน...บางครั้ง ความสำเร็จไม่ใช่ปลายทาง แต่เป็นพาหนะที่พาเราไปเจอ “คำถามใหม่ที่ยากกว่าเดิม”

และถ้าใครกำลังเจอคำถามแบบนั้นในชีวิต ขอให้รู้ไว้ว่า...ทุกคนไม่ได้บ้าแค่คนเดียว

เราแค่กล้าพอจะไม่ยอมอยู่ที่เดิมก็เท่านั้นเอง

เพราะคนบางคนไม่ได้ตกหลุมพรางของความล้มเหลว

แต่เขาตกหลุมพรางของ “ความสำเร็จที่ผ่านมาแล้ว” ต่างหาก

และมันปีนยากกว่าที่คิดเยอะเลย

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม