การออกแบบจากแก่น: การคิดให้ลึกลงไปและแยกแยะสิ่งที่จำเป็น

การออกแบบจากแก่น: การคิดให้ลึกลงไปและแยกแยะสิ่งที่จำเป็น

ในโลกที่เต็มไปด้วยความสับสนและข้อมูลที่ล้นหลาม การเลือกที่จะเห็น “แก่น” แทนที่จะสนใจแค่ “เปลือก” เป็นหนึ่งในแนวทางที่ดีที่สุดในการพัฒนาและสร้างสิ่งที่มีความหมายขึ้นมา แนวคิดนี้สามารถใช้ได้ในหลายๆ ด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในการทำงาน หรือแม้กระทั่งในการศึกษา ที่บางครั้งความเข้าใจที่ลึกซึ้งย่อมสำคัญกว่าภาพลวงตาของความสวยงามที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน

หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดที่มักถูกเข้าใจผิด คือการเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่หลายคนมักจะเชื่อว่า “ต้องวาดฉากเก่ง” เพื่อเป็นสถาปนิกที่ดี แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แค่เรื่องของการวาดรูปหรือฉากที่สวยงามเท่านั้น แต่คือการเข้าใจลึกซึ้งถึงความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่และฟังก์ชันที่ต้องการจะใช้สอย ตัวอย่างนี้สะท้อนให้เห็นถึงการมองลึกไปกว่าผิวเผิน เพื่อเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ



ในทำนองเดียวกัน ภูมิสถาปัตยกรรมก็ไม่ได้หมายถึงแค่การ “จัดสวน” แต่เป็นการออกแบบพื้นที่ที่สามารถสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนในโลกจริงๆ การศึกษาภูมิสถาปัตยกรรมเป็นการเรียนรู้การคิดเชิงระบบ การคำนึงถึงฟังก์ชัน การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการดีไซน์ที่เป็นไปตามหลักการของการใช้งาน ไม่ใช่แค่การตกแต่งเพื่อให้สวยงามและดูดีบนแผ่นกระดาษ

เมื่อเข้าไปเรียนในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของการออกแบบ เราจะเริ่มมองเห็นโลกจากมุมมองที่แตกต่างออกไป เช่นเดียวกับที่นักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ทฤษฎี “Theory of Evolution” ของชาร์ลส์ ดาร์วิน เพื่ออธิบายกระบวนการพัฒนาของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ในทันที แต่เป็นการปรับตัวที่ลึกซึ้งและยั่งยืนจากปัจจัยที่มีผลต่อการดำรงชีวิต

การออกแบบตัวละคร (Character Design) ก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่การวาดรูปร่างหน้าตาหรือเครื่องแต่งกายของตัวละคร แต่คือการออกแบบสภาพแวดล้อมหรือภูมิทัศน์ที่อยู่รอบตัวของตัวละคร ซึ่งเป็นเหมือนการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ไม่จำเป็นต้องใช้ต้นไม้หรืออาคารจริงๆ มาเกี่ยวข้อง แต่เป็นการทำให้ตัวละครมีชีวิตในโลกที่สมจริง

ทฤษฎีของ Viktor Frankl, นักจิตวิทยาและผู้เขียนหนังสือ Man's Search for Meaning ได้กล่าวถึงแนวคิดของการหาความหมายในชีวิตโดยการยอมรับอดีตและเข้าใจว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุผลและการเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านั้นเป็นสิ่งสำคัญในการเติบโต การประยุกต์ใช้ทฤษฎีนี้ในการออกแบบงานสร้างสรรค์หรือการพัฒนาอาชีพคือการไม่ยึดติดกับแค่สิ่งที่มองเห็นภายนอก แต่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ทำให้เรามีความหมายในสิ่งที่เราทำ

การยอมรับว่า “การออกแบบ” ไม่ใช่แค่การทำให้สิ่งต่างๆ ดูดีหรือเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม แต่มันคือการทำความเข้าใจลึกถึงบทบาทของสิ่งนั้นๆ ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบภูมิทัศน์หรือการออกแบบตัวละคร ทุกการดีไซน์ล้วนมีส่วนช่วยในเรื่องของการสร้างความสมดุลและการใช้ทรัพยากรในลักษณะที่ดีที่สุด

ความคิดเห็นส่วนตัว: ใช้สมองก่อนใช้กล้ามเนื้อ

จากประสบการณ์ส่วนตัวและการทำงานในด้านนี้ เราพบว่า “การใช้สมอง” เป็นสิ่งสำคัญที่มักจะช่วยให้เราประหยัดเวลาและทรัพยากรได้อย่างมากมาย เมื่อเราเริ่มหาความหมายในสิ่งที่เราทำและมองลึกลงไปในทุกๆ ด้าน เราจะเริ่มเข้าใจว่าไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยมือหรือด้วยกล้ามเนื้อ แต่ด้วยการคิดและวิเคราะห์ เราสามารถออกแบบสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บางครั้งการวาดฉากหรือการออกแบบสวนอาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าเราไม่เข้าใจแก่นแท้ของมัน เราก็จะไม่สามารถสร้างผลงานที่มีความหมายและยั่งยืนได้ ดังนั้นการใช้สมองในการคิดและวางแผนในเชิงลึก จึงเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดในการทำงานทุกๆ ด้าน

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในทุกงานที่เราทำคือการเข้าใจลึกถึงแก่นแท้ของมัน และเมื่อเราเข้าใจมันแล้ว เราก็สามารถสร้างสิ่งที่ดีและยั่งยืนออกมาได้

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม