เราเคยสงสัยกันไหมว่าน้ำท่วมในกรุงเทพฯจะจบลงได้จริงไหม หรือมันเป็นเหมือนฉากหนึ่งในภาพยนตร์ Inception
เราเคยสงสัยกันไหมว่าน้ำท่วมในกรุงเทพฯจะจบลงได้จริงไหม หรือมันเป็นเหมือนฉากหนึ่งในภาพยนตร์ Inception ที่เราอยู่ในฝันซ้อนฝัน วนเวียนหาทางออก แต่สุดท้ายก็ตื่นมาเจอความจริงที่เปียกชุ่มเหมือนเดิม? น้ำท่วมไม่ใช่แค่เรื่องธรรมชาติ แต่มันเป็นภาพสะท้อนของการจัดการเมืองที่ขาดสมดุล คล้ายกับงานศิลปะของ Jackson Pollock ที่ดูเหมือนมั่วแต่มีระบบซ่อนอยู่ ถ้าเรามองกรุงเทพฯจากมุมสูง มันก็เหมือนงานศิลป์ชิ้นนั้น เพียงแต่ระบบระบายน้ำของเราอาจจะไม่ได้ “สอดคล้อง” กับจังหวะธรรมชาติเท่าที่ควร
เราอยากชวนทุกคนมาคิดถึงแนวทางที่ landscape architecture จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้เป็นมากกว่าการเทคอนกรีตลงไปในคลอง เพราะธรรมชาติไม่ใช่ศัตรู แต่คือพันธมิตรที่เราควรทำงานร่วมกับมัน ลองมองไปที่โครงการ “สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา” ตัวอย่างหนึ่งของการใช้พื้นที่สีเขียวในเมืองเพื่อช่วยดูดซับน้ำในช่วงฝนตกหนัก หากขยายไอเดียนี้ไปสู่การออกแบบเมืองทั้งระบบ เราอาจมีทางออกที่ไม่ใช่แค่ท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ แต่เป็นการสร้าง “ฟองน้ำเมือง” (sponge city) ที่สามารถเก็บน้ำในดินเพื่อใช้ในช่วงแล้งด้วย
ในเชิงระบบ ลองนึกถึงการสร้างคลองและพื้นที่แก้มลิงที่ไม่ใช่แค่การขุดหลุม แต่ต้องออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเมือง เช่น สวนสาธารณะที่น้ำสามารถไหลลงไปเก็บใต้ดินได้เหมือนระบบของโครงสร้างสนามกีฬาที่ทันสมัยในต่างประเทศ อย่างสนาม Allianz Arena ในเยอรมนี ที่ออกแบบให้สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทุกคนเคยสังเกตไหมว่าแต่ละซอยในกรุงเทพฯเหมือนเป็นด่านในเกม The Legend of Zelda? ทางน้ำที่ซับซ้อน สายไฟที่ห้อยระโยงระยาง และความหลากหลายของระดับพื้นที่ ทำให้การระบายน้ำเป็นเรื่องยุ่งยาก ถ้าเราสามารถ “รีดีไซน์” ซอยเหล่านี้ให้มีระบบระบายน้ำใต้ดินที่เชื่อมต่อกันแบบเครือข่าย และเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนดาดฟ้าเพื่อช่วยดูดซับน้ำ เราอาจลดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากได้
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเรามีฝนตกมากเกินไป แต่อยู่ที่ว่าเรายังไม่มีวิธีเก็บน้ำให้สมดุล การออกแบบที่คำนึงถึงน้ำฝนในฐานะทรัพยากรสำคัญ เช่น การสร้างบ่อเก็บน้ำใต้ดินใต้ลานจอดรถหรือสนามกีฬา อาจช่วยได้มาก ระบบเหล่านี้ไม่ได้ซับซ้อนเท่าการออกแบบปราสาทใน Game of Thrones แต่ต้องใช้ความร่วมมือระหว่างสถาปนิก วิศวกร และชุมชน
สุดท้ายแล้ว เราอยากให้ทุกคนคิดว่าการแก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ใคร” หรือ “เมื่อไหร่” แต่มันคือเรื่องของ “เราทุกคน” และ “ตอนนี้” ถ้าเราเริ่มเปลี่ยนแปลงความคิดและให้ความสำคัญกับการออกแบบเมืองที่ทำงานร่วมกับธรรมชาติได้ เราอาจไม่ต้องฝันซ้ำๆ ว่าตัวเองตื่นมาเจอน้ำท่วมอีกต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น