เราเคยสงสัยกันไหมว่า เมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้แบบใน Raccoon City มันถูกออกแบบมาให้คน (หรือสิ่งมีชีวิตที่เคยเป็นคน) อยู่กันยังไง
เราเคยสงสัยกันไหมว่า เมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้แบบใน Raccoon City มันถูกออกแบบมาให้คน (หรือสิ่งมีชีวิตที่เคยเป็นคน) อยู่กันยังไง ถ้าเอาจริงๆ ใครกันนะที่เป็นคนคิดแผนผังเมืองที่ทำให้มันดูวุ่นวายพิลึก แต่กลับมีเสน่ห์จนเรารู้สึกเหมือนเดินเข้าไปอยู่ในนิยายของ Kafka ที่หลุดโลกแต่ตรึงใจ
Raccoon City เป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมาในโลกของเกม Resident Evil แต่ความซับซ้อนของมันกลับทำให้เราสงสัยว่าผู้ออกแบบเมืองนี้ต้องเป็นอัจฉริยะบ้าคลั่งแน่ๆ เพราะเมืองนี้เหมือนจะเป็นส่วนผสมของความงามแบบคลาสสิกและความโกลาหลจากนิยายไซไฟ เราเริ่มมองเห็นเค้าลางของเมืองนี้เหมือนกับเมืองในงานสถาปัตยกรรมยุโรปยุคปลายศตวรรษที่ 19 ที่เต็มไปด้วยความงดงามแต่ดูเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลอยู่
ลองนึกถึงสถานที่อย่าง Raccoon City Police Department (RPD) สิ มันดูเหมือนหลุดมาจากโบสถ์กอธิกที่โดนจับมาใส่เครื่องแบบตำรวจ ผนังหินที่เย็นเฉียบ ประตูเหล็กบานหนาที่เหมือนกำแพงป้องกันอะไรบางอย่างภายใน มันไม่ได้ดูเหมือนสถานีตำรวจในโลกจริงเลยสักนิด แต่กลับสร้างบรรยากาศให้เรารู้สึกว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งที่หาได้ยากในเมืองนี้ เหมือนจะบอกว่า “ต่อให้มีตำรวจเต็มเมือง แต่ก็ไม่มีใครปลอดภัย” ซึ่งตรงนี้มันสะท้อนถึงความไม่ไว้ใจในสถาบันที่ปรากฏในหลายๆ งานศิลปะและวรรณกรรม เช่น หนังเรื่อง The Matrix ที่ตั้งคำถามกับระบบที่ควบคุมมนุษย์
สวนสาธารณะในเกม ที่จริงถ้ามองเผินๆ อาจจะคิดว่า “อ๋อ พื้นที่สีเขียวธรรมดา” แต่เรามองว่ามันเหมือนถูกสร้างมาให้เป็นสนามรบมากกว่า พื้นที่ซ่อนตัวเยอะกว่าพื้นที่โล่ง สวนทางกับหลักการออกแบบ landscape architecture ในโลกจริงที่มักเน้นเรื่องการพักผ่อนและความสงบสุข อย่างสวนสาธารณะในเซ็นทรัลพาร์ค นิวยอร์ก ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้คนหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ แต่ใน Raccoon City สวนกลายเป็นเขาวงกตแห่งการเอาชีวิตรอด มันสะท้อนถึงแนวคิดแบบดาร์วินที่ว่า “ผู้ที่อยู่รอดไม่ใช่คนที่แข็งแรงที่สุด แต่คือคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุด”
หรืออย่าง Umbrella Corporation ที่ตั้งอยู่ในเมือง เราอดไม่ได้ที่จะมองว่ามันเหมือนเป็น “ตึกแฝด” กับบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายแห่งในโลกจริงที่ดูเหมือนจะใจดี แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยการแสวงหากำไรจากชีวิตมนุษย์ หากเปรียบ Umbrella กับภาพยนตร์ที่สะท้อนโลกจริง อาจจะนึกถึง Gattaca หรือ Ex Machina ที่ตั้งคำถามเรื่องศีลธรรมกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์
ที่น่าสนใจคือ Raccoon City ยังเป็นเมืองที่ออกแบบให้มีความ “แปลกตา” ในแบบที่คนเล่นเกมจะไม่มีวันลืม เช่น การเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ต่างๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีเหตุผล แต่กลับทำให้เราอินไปกับมัน เหมือนที่ภาพยนตร์ของ Wes Anderson ใช้การจัดวางที่ดูไม่สมเหตุสมผลแต่กลับดึงดูดเราให้ติดตามทุกการเคลื่อนไหว
ในความจริงแล้ว เราอาจมองได้ว่า Raccoon City เป็น “คำเตือน” จากโลกของศิลปะว่าการออกแบบเมืองโดยไม่คำนึงถึงมนุษย์จริงๆ อาจนำมาซึ่งหายนะ เมืองนี้ไม่ได้สร้างเพื่อ “อยู่” แต่เพื่อ “หนี” และเราคงไม่มีทางหาความสงบในเมืองแบบนี้ได้เลย ซึ่งก็เหมือนกับบทเรียนจากสังคมโลกจริงที่เมืองที่วางแผนไม่ดีอาจกลายเป็นฝันร้ายที่ใครๆ ก็อยากหลบหนี เช่น เมืองที่เต็มไปด้วยมลพิษหรือความเหลื่อมล้ำ
แต่พูดก็พูดเถอะ ถึงเราจะรู้ว่ามันเป็นฝันร้าย Raccoon City ก็ยังเป็นสถานที่ที่เราชอบเดินกลับไปสำรวจอยู่ดี เพราะมันเหมือนกับการอ่านนิยายที่เรารู้ตอนจบแต่ก็ยังอยากกลับไปเจอเหล่าตัวละครและบรรยากาศแบบเดิมอีกครั้ง นี่แหละที่ทำให้เกมนี้เป็นตำนานในใจเรา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น