รีวิวรองเท้า Adidas Slip-on

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว—เอาจริงก็ไม่นานหรอก แค่ปีที่ผ่านมา เราเคยมีรองเท้าคู่หนึ่งที่เหมือนเป็นเพื่อนแท้ของชีวิต เดินด้วยกัน ลุยด้วยกัน ไม่ต้องผูกเชือกให้ยุ่งยาก แต่ก็อยู่ในเทรนด์แฟชั่นแบบเหนือกาลเวลา มันคือ Adidas Slip-On นั่นเอง!

เรื่องมันเริ่มจากจู่ ๆ พ่อก็ยื่นรองเท้าคู่นี้มาให้ เราก็งง ๆ ว่าไปได้มาจากไหน เหมือนมันมีอยู่ในบ้านมานานแล้ว แต่พอถามน้อง น้องก็บอกว่าไม่ได้ซื้อ ส่วนเราเองก็จำไม่ได้ว่ามีตั้งแต่เมื่อไหร่ ฮ่า ๆ เอาเป็นว่าได้มาก็ใส่เลยละกัน!

จำได้ว่าตอนที่ได้มาครั้งแรก หยิบออกจากกล่องปุ๊บ เห็นดีไซน์แล้วแบบ โอ้โห! มินิมอล เรียบ เท่ แล้วมันดูมีความ สตรีทแฟชั่น มาก เหมาะกับการใส่เดินเที่ยว ใส่ไปทำงาน หรือแม้แต่ใส่ไปซื้อข้าวหน้าปากซอยยังดูดี! แล้วพอได้ลองใส่เท่านั้นแหละ โอ้แม่เจ้า นี่มันรองเท้าที่เกิดมาเพื่อคนขี้เกียจผูกเชือกโดยเฉพาะ ไม่ต้องเสียเวลาหยิบเชือกมามัดให้ยุ่งยาก แค่สวม สลิปออนปุ๊บ พร้อมลุยปั๊บ ไม่ต้องคิดเยอะ!

เรื่องราวของเจ้าตัวนี้

ถ้าย้อนเวลากลับไป Adidas Slip-On จริง ๆ ก็มีรากมาจากรองเท้า Superstar ที่เป็นตำนานของแบรนด์สามแถบมาก่อน แต่เขาปรับมาให้เป็นเวอร์ชันที่ใส่ง่ายขึ้น ตัดเชือกออก แล้วเพิ่มความยืดหยุ่นของอัปเปอร์ด้วยผ้า elastic band ซึ่งพอทำแบบนี้ปุ๊บ รองเท้าก็กลายเป็นรองเท้าที่ใส่ง่ายสุดในสามโลก เรียกว่าเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการความสะดวก แต่ยังต้องการสไตล์ที่ดูดีมีระดับอยู่

ฟังก์ชันเทพ ๆ ของ Adidas Slip-On ที่ทุกคนต้องรู้

มาดูกันดีกว่าว่าทำไมรองเท้านี้ถึงกลายเป็นที่รักของใครหลายคนขนาดนี้ อย่างแรกเลยคือ อัปเปอร์เป็นผ้ายืดแบบพรีเมียม ซึ่งทำให้รองเท้าโอบรัดเท้าได้แบบกระชับกำลังดี ใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด แต่ก็ไม่หลวมจนเดินไปแล้วกลัวจะหลุด ส่วนพื้นรองเท้าเป็น rubber outsole ที่ยึดเกาะพื้นได้ดีมาก จะเดินบนฟุตบาทที่ลื่นแค่ไหนก็ยังมีความมั่นคง นี่แหละที่ทำให้เรามั่นใจว่าใส่ไปเที่ยว เดินห้าง หรือเดินเล่นริมทะเลยังได้เลย!

ที่สำคัญที่สุดคือ เทคโนโลยี Cloudfoam ที่อยู่ด้านในรองเท้า อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ มันคือฟองน้ำสุดนุ่มที่ช่วยรองรับแรงกระแทก เวลาที่เดินหรือยืนเป็นเวลานานจะไม่รู้สึกเมื่อยเท้า คือแบบ ใส่แล้วรู้สึกเหมือนมีเบาะเล็ก ๆ มารองรับฝ่าเท้าตลอดเวลา คนที่ต้องเดินเยอะ ๆ หรือทำงานที่ต้องยืนนาน ๆ อย่างบาริสต้าหรือพนักงานร้านค้าต่าง ๆ น่าจะเลิฟสิ่งนี้

รองเท้าคู่นี้เหมาะกับใคร

จะบอกว่า Adidas Slip-On เหมาะกับทุกคนก็คงไม่เกินไป เพราะมันใส่ง่ายมาก แถมยังเข้ากับแทบทุกชุด ใส่กับ กางเกงยีนส์ ก็ได้ลุคเท่ ๆ ใส่กับ กางเกงขาสั้น ก็ดูชิล ๆ หรือถ้าอยากได้ลุคสตรีทแฟชั่น ก็สามารถใส่กับเสื้อโอเวอร์ไซส์ได้เลย ความมิกซ์แอนด์แมตช์คือไม่จำกัด!

แต่ที่แน่ ๆ รองเท้านี้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบผูกเชือกรองเท้าแบบสุด ๆ คนที่ต้องรีบออกจากบ้านทุกวันแต่ยังอยากดูดีต้องจัดไปเลย นอกจากนี้ ยังเหมาะกับคนที่ต้องเดินเยอะ ๆ เช่น นักเรียน นักศึกษา พนักงานออฟฟิศ หรือแม้แต่สายเที่ยวที่ต้องลุยทั้งวัน

เคล็ดลับที่คนไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับ Adidas Slip-On

มีทริคเล็ก ๆ สำหรับคนที่อยากให้รองเท้าคู่นี้อยู่กับเรานาน ๆ ก็คือ อย่าโยนเข้าตู้ซักผ้า! หลายคนคิดว่าโยนเข้าเครื่องไปเลยสะอาดง่าย แต่จริง ๆ แล้วมันจะทำให้อัปเปอร์ที่เป็นผ้ายืดเสียทรง ทางที่ดีคือให้ใช้แปรงขนนุ่ม ๆ ชุบน้ำสบู่แล้วค่อย ๆ ขัดเบา ๆ ส่วนพื้นยางก็ใช้แปรงสีฟันเก่าขัดก็พอ รับรองว่าสะอาดเหมือนใหม่

อีกอย่างคือ คนที่เท้าแบนหรือมีอาการรองช้ำ ถ้ารู้สึกว่ารองเท้ารุ่นนี้พื้นนิ่มแต่ยังไม่ซัพพอร์ตพอ สามารถซื้อแผ่นรองเท้าแบบ orthopedic insole มาเสริมด้านในได้ จะช่วยให้ใส่ได้สบายขึ้น และลดอาการปวดเท้าได้เยอะเลย

อำลาแบบน้ำตาซึม

เรื่องเศร้าก็คือ คู่แรกที่เรามี มันหายไปแล้ว… ไม่รู้ว่าหล่นหายไปตอนไหน หรือโดนใครขโมยไป แต่ที่รู้ ๆ คือคิดถึงมันมาก รองเท้าคู่นี้เป็นเหมือน best buddy ของเรา ใส่ไปทุกที่ ตั้งแต่เดินตลาด ไปคาเฟ่ จนถึงเดินเล่นริมชายหาด แล้วพอมันหายไปคือแบบ รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง!

ตอนนี้เลยอยู่ในโหมดตามหารุ่นนี้อีกคู่ แต่บางสีหายากขึ้นเยอะมาก เพราะ Adidas เปลี่ยนดีไซน์ไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเจอเมื่อไหร่บอกเลยว่าไม่พลาดแน่นอน! ใครที่ยังลังเลอยู่ ขอบอกเลยว่า ถ้าอยากได้รองเท้าที่ใส่สบาย ไม่ต้องผูกเชือก เดินง่าย และดูดีได้ทุกโอกาส Adidas Slip-On คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ลองดูสักครั้ง แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงยังอยากได้มันอีกคู่!