แรงบันดาลใจในการเขียนเพลง 'ยิมใครใหญ่นะ?'
วันนี้กูจะมาเล่าเบื้องหลังของเพลง "ยิมใครใหญ่นะ?" บอกก่อนเลยว่าเพลงนี้ไม่ได้มีเจตนาจะล้อใครให้เสียหน้า หรือด่าทอใดๆ ทั้งนั้น (เอาจริงนะ) ตอนแต่งกูก็แค่คิดว่าทำให้เพื่อนขำๆ ฮาๆคือเรื่องมันมีอยู่ว่า...
เบื้องลึก เบื้องหลังเพลงนี้ มันไม่ได้มีดราม่าหรืออะไรเลย มันเกิดจากแรงบันดาลใจที่มาจากเพื่อนกูคนหนึ่ง ที่ต้องบอกเลยว่าแม่งโคตรหล่อ! หล่อแบบออร่าแตกกระจาย กล้ามเป็นมัด ซิกแพ็คเป็นลูกๆ หุ่นอย่างกับนายแบบ คือจะบอกให้ว่าหล่อจริงไม่มีขิง!
และไอ้ความพีคของมันคือ... แม่งมี "ยิมส่วนตัว" ที่บ้าน! ใช่ ฟังไม่ผิด ยิมส่วนตัว! ไม่ใช่แค่ยิมกระจอกๆ ที่มีดัมเบลสองสามอันนะ มึงต้องจินตนาการถึงยิมหรูระดับพรีเมียม อุปกรณ์ครบทุกอย่างแบบที่ฟิตเนสใหญ่ๆ ยังต้องอาย มีตั้งแต่ดัมเบลหลายขนาด เครื่องวิ่งล้ำๆ บาร์เบลล์ ลูกเหล็ก กระจกบานใหญ่เต็มผนัง เห็นตัวเองทุกมุมเวลาออกกำลังกาย เรียกว่าแม่งโคตรเท่!
กูจำได้ว่าตอนนั้นจินตนาการว่ามันคงจริงจังกับการฟิตหุ่นแม่งมาก ตื่นเช้ามาก็เข้ายิม วิ่ง ยกเหล็ก สควอท คงกินคลีนตามสูตรเป๊ะๆ โปรตีนเชคไม่เคยขาด ไม่มีของหวานแทรกกลาง ไม่แตะชานม ไม่แดกของทอด คำว่า "ลีน" นี่ฝังอยู่ในสายเลือดเลย! กูยังแอบอิจฉาว่ามันมีวินัยเกินคนปกติไปแล้วปะวะ?
แต่เอาเข้าจริง... กูไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแม่งว่ะ!
วันดีคืนดี อยู่ๆ แม่งเหมือนสลับร่างกับใครก็ไม่รู้! จากที่เคยเข้ายิมทุกวัน กลายเป็นนั่งแดกระหว่างทำงาน! แล้วไอ้เรื่องแดกนี่... เอาจริง กูไม่อยากโทษตัวเองนะ แต่กูว่าเพราะคบกูเป็นเพื่อนแล้วชีวิตแม่งพัง! กูชวนมันแดก KFC ไง สั่งโค้กมากินกับข้าวยำไก่แซ่บ! จากที่เคยกินคลีน ก็กินแหลกไม่สนอะไรอีกต่อไป บิงซู ชาบู ชานมไข่มุก จัดหมด!
และพีคสุดคือ...
ยิมสุดหรูของมันอ่ะ จากที่เคยเป็นสนามซ้อมความหล่อ กลายเป็นห้องเก็บฝุ่นซะงั้น! เครื่องออกกำลังกายแม่งยืนเรียงรายเหมือนทหารเก่าในพิพิธภัณฑ์ ไม่มีใครสนใจ! ทั้งๆ ที่ของก็ยังอยู่ครบ เหมือนกับมันยังตั้งใจจะกลับมาฟิต... แต่ก็แค่ "ตั้งใจ" อยู่ในใจนั่นแหละ!
กูแอบแซวมันอยู่บ่อยๆ มันก็ขำ แต่ก็ยังแดกเหมือนเดิม คือกูก็ไม่รู้ว่ามันรู้ตัวไหมว่าหุ่นเทพบุตรของมันกลายเป็น "เทพพุง" ไปแล้ว...
แล้วคือโคตรบังเอิญ! ตัวละคร "ชิโด" ใน Seraphim Torus ที่กูเขียนไว้ แม่งเสือกมีคาแรกเตอร์คล้ายๆ กับเพื่อนกูอีก! ชิโดเคยเป็นเทพบุตร หล่อ ล่ำ เป็นที่หมายปองของทุกคน แต่ด้วยเหตุผลบางประการก็ปล่อยตัวอ้วนพีจนพุงล้น กลายเป็นหมีพุงย้อย... โอ๊ย เหมือนชีวิตจริงของเพื่อนกูไม่มีผิด! กูเลยจับทั้งสองแรงบันดาลใจมารวมกันกลายเป็นเพลงนี้ไปซะเลย
"ยิมใครใหญ่นะ?" เลยไม่ใช่แค่เพลงแซวเพื่อนธรรมดา แต่มันคือการถ่ายทอดเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงของคนคนหนึ่ง ที่เคยฟิต เคยหล่อ เคยเป๊ะ แต่แล้วก็โดนความสบายเข้าครอบงำจนลืมความตั้งใจของตัวเอง มันไม่ใช่แค่ล้อ แต่มันคือความห่วงใยนะเว้ย! (แต่แน่นอน กูก็ไม่ได้ดีไปกว่านั้นหรอก แต่ปากกูกล้า ท้าลมหนาว!)
แต่เอาจริงๆ ที่กูล้อมึงก็เพราะมึงแม่งชอบพูดติดปากว่า "ยิมกูใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน!" ทุกครั้งที่กูไปบ้านมึง หรือเวลาใครพูดเรื่องออกกำลังกาย มึงจะต้องพูดประโยคนี้เหมือนเป็นคาถาประจำตัว คือเข้าใจนะว่ายิมมึงมันใหญ่จริง ใหญ่อลังการแบบฟิตเนสหรูยังอาย แต่ตอนนี้มันดันกลายเป็นแค่ "ยิมในตำนาน" ไปแล้วเว้ย!
และนั่นแหละ พอคิดถึงประโยคนี้ทีไร กูก็อดขำไม่ได้ เลยจับมาล้อเล่นในเพลงซะเลย ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงนอกจากความคิดถึงเวอร์ชันฟิตจัดของมึงที่เคยพูดคำนี้ด้วยความมั่นใจเต็มร้อย ทุกวันนี้กูยังนึกภาพตอนมึงพูดแล้วพองอกโชว์ซิกแพ็คไม่ออกเลยว่ะ! 😆
ปล. อย่าลืมนะเว้ย! ถ้าคิดจะกลับไปฟิตอีกที ยิมมึงยังใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านเหมือนเดิมนะ! 💪
ปล.2 อย่าพึ่งโกรธกูเพิ่มอีกนะ! กูเปิดไปเจอเพลงนี้แล้วอารมณ์ดี นึกถึงตอนที่แต่งเพลงนี้แล้วมันตลก ฮา และแน่นอน กูเคยบอกมึงว่า เวลาที่กูฮา เพราะกูเครียด แล้วหาทางออกไม่ได้! 😆
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น