เรื่องสั้น: ซ่อนรักในแสงดาว
“มึง… มึงอย่ามาแตะต้องกูนะ” แจ็คพูดเสียงต่ำ น้ำเสียงโกรธที่พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้มันแตกกระจายจนมากเกินไป ท่ามกลางความมืดมิดของห้องทำกิจกรรมแห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยกระดาษกองโตและเสียงจิ๊บจ๊อยของการทำงานร่วมกันตลอดสองปีที่ผ่านมา เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกบีบคั้นจากอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถควบคุมได้
มาร์คมองเพื่อนของตัวเองด้วยสายตาที่ดูงุนงง ก่อนที่เขาจะยิ้มบางๆ ให้กับความโกรธของอีกฝ่าย “ไม่ต้องโมโหขนาดนั้นก็ได้น่า แจ็ค” มาร์คพูดพร้อมยกมือขึ้นทาบบนโต๊ะไม้โต๊ะกลม เพื่อไม่ให้สถานการณ์มันบานปลายไปกว่านี้ มาร์คมีวิธีทำให้ทุกอย่างสงบลงอย่างที่เขาเคยทำเสมอ ทุกครั้งที่แจ็คท่าทางเหมือนจะหลุดจากการควบคุม
"มึงไม่เข้าใจหรอก! เพราะมึงไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน" แจ็คตอบเสียงกร้าว อารมณ์ที่ไม่รู้ว่าจะพุ่งไปทางไหนเริ่มสับสน เขาตั้งใจจะพูดให้หนักแน่น แต่กลับรู้สึกเหมือนความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในนั้นมันหนักหน่วงจนเกินไป
มาร์คมองไปที่เพื่อนนิ่งๆ ไม่พูดอะไรในตอนแรก ก่อนที่จะยิ้มให้บางๆ ราวกับไม่รู้สึกว่าอะไรในโลกนี้จะทำให้เขาเครียดไปได้ “มึงน่าจะรู้ว่า ถ้ามึงอยากได้อะไร มึงก็ต้องพูดออกมา” เสียงมาร์คแผ่วเบา แต่กลับเต็มไปด้วยความมั่นคง ราวกับมันไม่ใช่แค่คำพูดธรรมดา แต่เป็นการบอกว่าความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในนี้มันเป็นสิ่งที่ทั้งสองคนต้องรับผิดชอบด้วยกัน
แจ็คหันไปมองมาร์คอีกครั้ง ดวงตาของเขาสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่กดทับเขาเอาไว้ แค่การพูดออกไปว่าเขารู้สึกอย่างไร ก็ยังยากเกินไป “มึงคิดว่า… กูหลอกใช้มึงเหรอ?” เขาถามเสียงสั่นๆ พร้อมกับยกมือขึ้นทัดผมที่ยุ่งเหยิงราวกับพยายามปิดบังอะไรบางอย่าง
มาร์คยักไหล่ให้เบาๆ ความนิ่งของเขาเหมือนจะทำให้ทุกอย่างดูง่ายดายเกินไป “ถ้ามึงคิดแบบนั้น มึงก็คิดไปเถอะ แต่กูไม่เคยคิดแบบนั้นหรอก” เขาตอบพลางเดินไปยืนข้างๆ แจ็คอย่างช้าๆ เหมือนกับการเคลื่อนไหวที่ระมัดระวัง เขามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวยามค่ำคืน เสียงลมพัดผ่านหน้าต่างดังเบาๆ
“มึง…” แจ็คพูดเสียงต่ำ รู้สึกเหมือนตัวเองไม่สามารถหาคำพูดที่จะเอื้อนเอ่ยออกมาได้ ความรู้สึกที่มากมายเกินกว่าจะบอกได้ เขาหลับตาลงอีกครั้ง ราวกับพยายามหาคำตอบจากภายใน
มาร์คหันไปมองหน้าแจ็คอย่างช้าๆ หยุดเดินแล้วหันกลับมา “มึงเคยคิดถึงกูบ้างไหม? ตอนที่เราไม่ได้เจอกัน?” มาร์คถามเสียงเบา แต่คำถามนี้กลับทำให้แจ็ครู้สึกเหมือนโดนกระทบจากภายใน
"มึง… จะถามแบบนี้ทำไม?" แจ็คตอบเสียงต่ำ ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในยังคงขัดแย้งกันเอง ความคิดที่ว่าเขาคิดว่าเขาไม่ได้สำคัญกับมาร์คมันยากจะละทิ้งไปได้
มาร์คยิ้มให้บางๆ ราวกับเขาเข้าใจทุกอย่าง เขาเอื้อมมือไปขยี้ผมของแจ็คเบาๆ พลางพูดด้วยความรู้สึกอ่อนโยน “เพราะกูรู้… ว่ามึงแค่ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่กูรู้มานานแล้วว่า… มึงรักกู”
แจ็คขยับตัวออกเล็กน้อย รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้นเหมือนถูกเตือนความรู้สึกเก่าๆ ที่เขาพยายามเก็บไว้ในที่มืด เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก “มึง… จะให้กูเชื่ออะไรได้บ้างล่ะ มาร์ค?” แจ็คพูดเสียงที่ไม่ค่อยมั่นใจตัวเอง
มาร์คยิ้มให้ “เชื่อในตัวเองน่ะดีแล้ว” เขาพูดพร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้า ราวกับรอให้แจ็คยอมรับสิ่งที่เขาจะบอก
แจ็คถอนหายใจออกมา “มึง… ทำไมไม่บอกกูแต่แรก” เขาพูดเสียงเครียด และพยายามหาคำอธิบาย
ห้องที่สองคนต่างนั่งอยู่ดูเงียบสงัดจนแทบได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ความเงียบที่ค้างคาอยู่ในอากาศทำให้ความรู้สึกที่ทั้งสองพยายามจะหลบหลีกเริ่มปรากฏออกมาเป็นความเจ็บปวดในจิตใจ แจ็คยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ ตัวเองยังคงรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ท่ามกลางความรู้สึกโกรธแค้นที่เขาคิดว่าเขาได้รับจากมาร์ค เขารู้สึกว่าในทุกสิ่งที่เขาทำ ทั้งหมดมันกลายเป็นเพียงเครื่องมือที่มาร์คใช้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
มาร์คที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรออกมา เขารู้ดีว่าความเงียบในตอนนี้มันอาจจะหนักหน่วงจนเกินไป เขาแค่ยื่นมือไปข้างหน้าแล้วจับข้อมือของแจ็คเบาๆ เพื่อเรียกให้ความสนใจของอีกฝ่ายมาหาเขา ก่อนจะถามคำถามที่ทั้งสองคนรู้อยู่แก่ใจ
“มึงเชื่อใจกูไหม?” มาร์คถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง
แจ็คเงียบไปสักพักก่อนจะตอบออกมาเสียงแหบต่ำ “มึง... จะให้กูเชื่ออะไร?” คำถามที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจสะท้อนออกจากปากของเขา ใจของเขายังคงมืดมนและเต็มไปด้วยข้อสงสัย
มาร์คยิ้มให้บางๆ อย่างใจเย็น ไม่เร็วเกินไป แต่ก็ไม่ช้าเกินไป “เชื่อว่ากูไม่ได้ใช้มึง... เชื่อว่ากูรักมึงต่างหาก” คำพูดที่แผ่วเบา แต่กลับดังไปถึงหัวใจของแจ็ค ราวกับว่าความรู้สึกที่ถูกปิดบังเอาไว้เริ่มจะมีบางอย่างที่ถูกเปิดเผย
คำว่า "รัก" ที่มาร์คพูดออกมาทำให้ห้องนี้เงียบไปอีกครั้ง ความเงียบที่เต็มไปด้วยคำถามที่ไม่สามารถตอบได้
“มึงพูดบ้าอะไร... เราทำกิจกรรมร่วมกันก็จริง แต่กูไม่เคยคิดกับมึงแบบนั้น” แจ็คพูดพร้อมกับยิ้มให้ตัวเอง แต่เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขารู้ดีว่าในความเป็นจริงเขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตัวเองมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่มันยากเหลือเกินที่จะยอมรับ
มาร์คยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขามองออกไปที่ท้องฟ้าผ่านหน้าต่าง มองไปยังดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับ ราวกับเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ “มึงเคยคิดถึงกูบ้างไหมตอนที่เราไม่ได้เจอกัน?” คำถามนี้ไม่เพียงแค่ถามเกี่ยวกับเวลา แต่ถามถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
แจ็คหันไปมองมาร์ค ราวกับเขากำลังพยายามค้นหาคำตอบจากดวงตาคู่นั้น แต่ความคิดทั้งหมดในหัวของเขากลับหายไปเหมือนกับว่าทุกสิ่งที่เขาพยายามทำความเข้าใจมันไม่มีที่ทางให้เข้าไปถึง เขารู้สึกว่างเปล่า คำพูดติดอยู่ที่ริมฝีปาก ไม่สามารถหลุดออกมาได้ เขาพยายามจะพูด แต่ทุกครั้งที่เปิดปาก มันกลับไม่มีเสียง “กู... กู...” คำพูดเหล่านั้นหายไปในอากาศ ล่องลอยเหมือนกับความรู้สึกในใจที่ไม่สามารถบอกใครได้
มาร์คมองเขาด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่ไม่มีความเร่งรีบ ไม่มีความกดดัน แต่เหมือนจะบอกว่าเขารู้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้สำคัญขนาดนั้น มันไม่จำเป็นต้องรีบตอบ คำตอบอยู่ในใจเขามานานแล้ว “ไม่เป็นไร... กูรู้ว่ามึงรักกู” มาร์คพูดออกมาเสียงเบา แต่ชัดเจน เขาพูดราวกับว่าเขารู้ทุกอย่าง แม้ในขณะที่แจ็คยังไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
แจ็คขมวดคิ้ว ความสงบที่เคยอยู่ในใจเขากำลังสั่นคลอน เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกเปิดเผยในที่สุด รู้สึกเหมือนมาร์คมองทะลุเข้าไปถึงความกลัวที่เขาซ่อนอยู่ในใจ “มึงมั่นใจได้ยังไง?” แจ็คถามออกมาเสียงต่ำ ราวกับต้องการทดสอบความมั่นใจของมาร์ค แต่มันกลับออกมาด้วยความไม่เชื่อมั่น เขายังไม่สามารถรับรู้ความจริงในใจตัวเองได้
“เพราะกูรู้... ว่ามึงแค่อารมณ์เสีย” มาร์คพูดพร้อมกับยิ้มให้เขาอีกครั้ง รอยยิ้มที่เหมือนจะบอกว่าเขาเข้าใจทุกอย่าง แม้ในตอนนั้นจะไม่พูดออกมา เขารู้ว่าแจ็คกำลังกลัวบางอย่าง เขารู้ว่าแจ็คไม่มั่นใจในตัวเอง แต่มาร์คไม่เคยคิดว่าเขาจะอ่อนแอ เขามั่นใจในความรักที่เขามี แม้มันจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่มันก็เป็นความรักที่เต็มไปด้วยความจริงใจ
“มึงไม่รู้หรอก…” แจ็คพูดเสียงต่ำ ความรู้สึกที่เขาพยายามจะปกปิดมันออกมาในที่สุด เขาหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อ “… กูไม่อยากให้มึงคิดว่ากูอ่อนแอ” เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเปิดเผยบางสิ่งที่ไม่เคยยอมรับแม้แต่ตัวเอง
มาร์คยิ้มให้เบาๆ เขามองแจ็คเหมือนรู้ทุกอย่างและพร้อมจะเข้าใจทุกสิ่งที่แจ็คกำลังรู้สึก “แต่กูไม่เคยคิดแบบนั้นเลย” มาร์คพูดด้วยเสียงนุ่มอย่างมั่นใจ เขายื่นมือไปเบาๆ และสัมผัสข้างแก้มของแจ็คอย่างอ่อนโยน ราวกับกำลังบอกว่า “มันไม่ใช่ความอ่อนแอถ้ามึงยอมรับมัน” ท่าทางของมาร์คไม่ใช่แค่การปลอบประโลม แต่เป็นการบอกว่าเขาพร้อมจะยืนเคียงข้างแจ็ค แม้ในยามที่เขากลัวที่สุด
แจ็คไม่ตอบอะไรออกมา เขารู้สึกได้ถึงการสัมผัสนั้น มันเหมือนกับการปลดล็อคบางอย่างในตัวเขา เสียงหัวใจของเขาดังก้องขึ้นเหมือนกับสัญญาณเตือนให้เขารู้ว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับความกลัวที่ซ่อนอยู่ในตัวเองมาอย่างยาวนาน ความกลัวที่จะยอมรับความจริง ความกลัวที่จะยอมให้ตัวเองรู้สึกถึงความรัก
และในท่ามกลางความเงียบในห้องนั้น ทุกสิ่งที่ไม่ได้พูดเริ่มมีความหมายมากขึ้นเรื่อยๆ สายลมที่พัดผ่านหน้าต่างมาทำให้รู้สึกถึงความเย็นสบาย ราวกับว่าทุกอย่างกำลังคลี่คลาย ความคิดที่ค้างคาก็เริ่มหายไปในที่สุด ความเข้าใจที่แท้จริงเกิดขึ้นแล้ว การยอมรับในตัวเองและกันและกันก็เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ความรักของพวกเขาไม่ใช่เรื่องของคำพูดหรือการแสดงออก แต่เป็นการเข้าใจในสิ่งที่อยู่ในใจของแต่ละคน
พวกเขาทั้งสองไม่ได้แยกจากกัน แม้ในช่วงเวลาที่เคยคิดว่าความรักของพวกเขาจะจบลงด้วยการเข้าใจผิด แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้เรียนรู้ว่าความรักนั้นต้องการเวลา ความมั่นคง และการให้ใจต่อกัน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทั้งสองคนก็จะได้ยืนเคียงข้างกัน ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่ไม่ต้องการคำพูดที่อ่อนหวานหรือละเอียดอ่อน แต่เป็นการยอมรับกันและกันในทุกๆ ด้าน ความรักที่เกิดขึ้นจากการเข้าใจในตัวเองและกันและกันจนไม่ต้องการอะไรอื่นใดไปมากกว่านี้
ในที่สุด ความเงียบก็กลายเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองคน แจ็คเริ่มยอมรับความรู้สึกของตัวเองที่ซ่อนอยู่ลึกๆ และเข้าใจว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวที่จะเปิดใจให้มาร์คเข้ามาในชีวิต การยอมรับในความรักนั้นไม่ใช่เรื่องของการแสดงออกหรือต้องพิสูจน์อะไร แต่เป็นการเปิดใจให้กันและกันได้เข้ามาอย่างแท้จริง
มาร์คไม่เคยคาดหวังให้แจ็คตอบอะไรทันที เขาแค่ต้องการให้แจ็ครู้ว่าเขาจะอยู่เคียงข้างเสมอ แม้ในวันที่ทุกสิ่งรอบตัวไม่เป็นไปตามที่หวัง ความมั่นใจในรักของมาร์คไม่ได้มาจากคำพูด แต่มาจากการกระทำและการให้เวลาในการสร้างความเข้าใจ
เมื่อทั้งสองคนยอมรับความรู้สึกของกันและกัน พวกเขาก็ได้พบว่าแท้จริงแล้วความรักนั้นไม่ได้มีเงื่อนไข ไม่ต้องการคำยืนยันหรือการพิสูจน์อะไรทั้งนั้น มันเกิดขึ้นจากความจริงใจ การให้เวลาและการเคารพในความรู้สึกของอีกฝ่าย
และในที่สุด แจ็คและมาร์คก็ได้ยืนเคียงข้างกันในช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบายให้ชัดเจน เพราะความรักของพวกเขามีคำตอบในตัวมันเอง ความรักที่ไม่ต้องการคำพูดที่ซับซ้อน แต่เป็นการยอมรับกันและกันอย่างแท้จริง ความรักที่เกิดขึ้นจากการเข้าใจซึ่งกันและกันในทุกๆ แง่มุม ไม่มีข้อแม้ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่จะมาขัดขวางเส้นทางของพวกเขา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น