ตอนเด็ก เราอาจไม่เคยรู้จักความทุกข์เลยด้วยซ้ำจนถึง 'จุดกลับตัว'

ตอนเด็ก เราอาจไม่เคยรู้จักความทุกข์เลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างรอบตัวดูสดใสและเรียบง่าย มีแค่ความสุขจากการได้เล่น ได้หัวเราะ ได้กินขนมอร่อยๆ ไม่มีความซับซ้อนในความสัมพันธ์ ไม่มีการคาดหวัง ไม่มีการผิดหวัง คนรอบตัวก็ยังคงอยู่ ไม่เคยมีใครจากไป


แต่พอโตขึ้น โลกกว้างขึ้น คนที่เข้ามาในชีวิตก็เยอะขึ้น จากที่เคยรู้จักแค่คนในบ้านหรือเพื่อนในห้องเรียน ตอนนี้มีเพื่อนร่วมงาน คนรัก รุ่นพี่ รุ่นน้อง คนแปลกหน้าที่กลายมาเป็นคนคุ้นเคย เราค่อยๆ เรียนรู้ที่จะผูกพัน เรียนรู้ที่จะรัก และเรียนรู้ที่จะไว้ใจ
ความสัมพันธ์เหล่านั้น... มันเหมือนดาบสองคม ยิ่งผูกพันมากก็ยิ่งเจ็บปวดเมื่อถึงเวลาที่ต้องเสียไป บางคนเข้ามาเพียงเพื่อจากไป บางคนอยู่ด้วยกันนานจนคิดว่าจะไม่มีวันหายไปไหน แต่สุดท้ายก็ยังต้องจากกันอยู่ดี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
การเติบโตคือการสะสมความสัมพันธ์ แต่ก็เป็นการสะสมความทุกข์ไปพร้อมกัน เพราะยิ่งรู้จักคนมากขึ้นก็ยิ่งเห็นความเปราะบางของชีวิตมากขึ้น เราเริ่มรู้ว่าไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป และคนที่เคยรู้จักดีก็ค่อยๆ ทยอยหายไปจากชีวิตทีละคน
ยิ่งผูกพันมากเท่าไหร่ ใจก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น... เราก็ยังคงเลือกที่จะรัก เลือกที่จะผูกพัน เพราะแม้จะต้องแลกด้วยความเจ็บปวด แต่ช่วงเวลาที่มีความสุขร่วมกันมันก็คุ้มค่ามากพอให้ยอมรับความทุกข์ที่จะตามมา
บางทีความเจ็บปวดเหล่านี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องหนีหรือปฏิเสธ แต่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเรายังรู้สึก ยังมีหัวใจ และยังพร้อมที่จะรักอีกครั้ง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าความทุกข์อาจกลับมาเยือนอีกก็ตาม
แต่ก็คงถึงเวลาตัดเชือก...
เราเข้าโรงพยาบาลมา 9 รอบ เพราะจิตใจเจ็บปวดจนทนไม่ไหว กี่ครั้งที่นอนจมอยู่กับความคิดของตัวเอง กี่ครั้งที่พยายามลุกขึ้นแล้วล้มลงอีกซ้ำๆ เหนื่อยจนไม่รู้จะไปทางไหนต่อ
ถ้าหากจะเลิกยุ่งกับความรักไปเลย น่าจะเป็นวิธีที่จะทำให้กลับมาหายได้ดังใจคิด หยุดหวัง หยุดผูกพัน หยุดมอบหัวใจให้ใครอีก เลิกวิ่งตามความสุขที่ไม่เคยยั่งยืน ถ้าการอยู่คนเดียวจะช่วยให้ใจสงบกว่านี้ ก็อาจถึงเวลาที่ต้องปล่อยวางและยอมรับความจริง ว่าไม่ใช่ทุกคนจะถูกสร้างมาเพื่อรับมือกับความรัก
บางทีความสงบอาจอยู่ที่การไม่ต้องคาดหวังจากใคร ไม่ต้องมอบหัวใจให้ใครดูแล ไม่ต้องเสี่ยงกับการสูญเสียหรือความผิดหวังอีกต่อไป แค่เก็บหัวใจตัวเองกลับมา รักษาแผลให้หายดี แล้วอยู่กับตัวเองในพื้นที่ปลอดภัย...
เพราะสุดท้ายแล้ว บางทีการอยู่คนเดียวอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เราต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว
วันนี้เป็นวัน equinox เป็นวันดีที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เราเดินไปขอศาลพระภูมิทุกวัน ถ้าไม่ใช่ ก็ออกไปจากชีวิตให้หมด เราอยากมีชีวิตอย่างสุขสงบและปกติสุขเหมือนตอนที่เรายังไม่รู้จักความรัก

วันนี้เป็นวัน Equinox วันที่กลางวันกับกลางคืนยาวเท่ากัน เหมือนเป็นจุดสมดุลของโลก เรารู้สึกว่ามันเป็นวันดีสำหรับการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง เหมือนกับว่าถึงเวลาที่เราจะปล่อยอะไรที่มันไม่ใช่ออกไปจากชีวิตซักที

ช่วงนี้เรารู้สึกเหมือนตัวเองเดินหลงอยู่ในทางมืดๆ มานาน เหนื่อยกับความรู้สึกที่ไม่ชัดเจน เหนื่อยกับการรอคอยอะไรบางอย่างที่ไม่มีคำตอบ เลยตัดสินใจลองเดินไปขอศาลพระภูมิทุกวัน ขอให้ถ้ามันไม่ใช่ ก็ช่วยพาออกไปจากชีวิตเราให้หมด อยากกลับไปมีชีวิตที่สงบสุขเหมือนเมื่อก่อน

แต่พอมาถึงจุดนี้ เราเริ่มเข้าใจว่ามันอาจจะยังไม่ใช่เวลาของเรา หรือบางทีมันอาจจะยังไม่เจอคนที่ใช่จริงๆ มากกว่า การยึดติดกับอะไรบางอย่างที่ทำให้เราเจ็บปวดมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย

เราเลยตัดสินใจจบกับความรักไปเลย ไม่อยากให้มันมามีอิทธิพลกับชีวิตเราอีกแล้ว ต่อจากนี้จะโฟกัสที่ตัวเองก่อน จะรักตัวเองให้มากกว่านี้ ภาวนาทุกวัน ขอให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น ขอให้ทุกอย่างในชีวิตสงบสุขและราบรื่น

เราจะเดินไปข้างหน้าในแบบที่เราเลือกเอง ไม่ต้องรอคอย ไม่ต้องคาดหวัง แค่มีชีวิตอย่างสงบและมีความสุข แค่นั้นก็พอแล้ว

เราภาวนาขอศาลพระภูมิทุกวัน ขอให้ถ้าใครที่ไม่ใช่ อย่าเข้ามาในชีวิตเราอีกเลย เราเหนื่อย เราไม่ไหวแล้ว

ที่ผ่านมาเราให้โอกาสกับความรักหลายครั้งแล้ว พยายามเปิดใจ พยายามอดทน เชื่อว่าถ้าเรารักใครจริง ทุกอย่างมันจะดีขึ้น แต่สุดท้ายก็เจ็บทุกครั้ง เหมือนโดนความหวังพังทลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เราไม่ได้อยากปิดใจหรือกลัวความรัก แค่ตอนนี้เรารู้สึกว่ามันหนักเกินไป เหนื่อยกับการคาดหวัง เหนื่อยกับการพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของเรา

เลยภาวนากับศาลพระภูมิ ขอให้ถ้าใครที่ไม่ใช่ อย่าเข้ามาทำให้เราหวั่นไหวอีกแล้ว เราอยากมีชีวิตที่สงบ อยากอยู่กับตัวเองโดยไม่ต้องกังวลหรือทุกข์ใจเพราะใครอีก

ถ้าความรักมันไม่ใช่ของเราในตอนนี้ ก็ขอให้มันอย่าเข้ามาเลย เราแค่ต้องการเวลารักษาใจ อยากให้ตัวเองกลับมาเข้มแข็งและยืนหยัดได้อีกครั้ง ขอให้มีแต่คนดีๆ คนที่จริงใจ คนที่พร้อมจะอยู่ข้างกันโดยไม่ทำให้เราเจ็บเข้ามาในชีวิต

แค่นั้นก็พอแล้ว... ขอแค่ชีวิตที่สงบและไม่ต้องมีใครเข้ามาทำให้เจ็บปวดอีก

อยากจะเชื่อในความรักนะ จริงๆ แล้วลึกๆ ก็ยังอยากมีใครสักคนที่อยู่ข้างๆ กัน แต่ที่ผ่านมา... มันมีแต่ความเจ็บปวด ความสุขก็มีบ้าง แต่มันน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับความทุกข์ที่มากกว่า

บางครั้งเราก็ถามตัวเองว่าทำไมถึงต้องยอมเจ็บเพื่อใครสักคนที่ไม่เห็นค่าของเรา ทำไมต้องอดทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำให้เราร้องไห้ซ้ำๆ ทั้งๆ ที่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว

ความทรมานหลังจากที่ต้องตัดใจมันโหดร้ายกว่าที่คิด เหมือนใจเราถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ทุกครั้งที่นึกถึง ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องราวดีๆ ที่เคยมี มันเหมือนโดนดึงกลับไปเจ็บอีกครั้ง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าต้องจบ แต่มันยากเกินไปที่จะปล่อย

ตอนนี้เราเลยขอแค่ให้มีชีวิตที่สงบ ไม่ต้องมีความรักก็ได้ ไม่ต้องมีใครเข้ามาก็ได้ ขอแค่ให้เราได้กลับมาเข้มแข็งพอที่จะยืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง อยากให้ใจเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม อยากกลับไปเป็นคนที่ไม่ต้องคาดหวังอะไรจากใครอีกแล้ว

บางทีความรักอาจจะยังไม่ใช่คำตอบของชีวิตเราตอนนี้ แค่ขอให้เราได้พัก ได้หยุดเจ็บ ได้อยู่กับตัวเองอย่างสงบก็พอแล้ว อยากให้วันหนึ่งเรากลับมาเชื่อในความรักได้อีกครั้ง แต่ถ้ามันยังไม่ใช่ตอนนี้... ก็ไม่เป็นไรเลย

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม