สิ่งที่ควรเสพเพิ่มเติม




วันก่อนเราเลื่อนฟีดไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนสมองโดนแช่แข็งในไมโครเวฟ
คือร้อนรุ่มแต่ไร้รสชาติ...
คลิปสั้น ตัดต่อเร็ว เสียงปังปุริเย่ ภาพซ้อน 3 ชั้นใส่แคปชัน “วิธีรวยไว” หรือ “3 ขั้นตอนสู่ความสุขที่ไม่ต้องทำอะไรเลย”
เราดูจบแต่ไม่รู้ว่าดูอะไร
แล้วอยู่ๆ ก็มีประโยคนึงแว้บขึ้นมาในหัว

“เราไม่ได้ดูเพื่อเรียนรู้ แต่ดูเพื่อไม่รู้สึกว่าว่างเปล่า”

เอาเข้าจริง นี่คือความว่างเปล่าที่ปลอมตัวมาเก่งมาก
แล้วมันก็เริ่มลามไปถึงงานที่เราทำ
ภาพที่วาดเริ่มซ้ำ
คำที่เขียนเริ่มกลวง
แม้แต่เพลงที่เราแต่งก็เริ่มรู้สึกว่าเรากำลังเล่นกับ echo ของความคิดคนอื่น ไม่ใช่ของตัวเอง

เราก็เลยนั่งไล่ดูโปรไฟล์ตัวเอง
Trader – จับจังหวะเก่ง
Deal Maker – เข้าใจคน
Accumulator – วางโครงดี
Alchemist – เปลี่ยนความเจ็บให้กลายเป็นศิลปะ
Connector – เอาความเข้าใจของเราต่อเข้ากับใจคนอื่นได้
Lifepath 7 – คนที่ถูกสร้างมาเพื่อค้นหาความจริง ไม่ใช่แค่เสพความบันเทิง

เราก็เลยเริ่มจัดเมนูใหม่ให้สมองตัวเอง
เราไม่ห้ามดูอะไรเบาๆ แต่เราต้องมีอาหารหลัก ไม่ใช่กินแต่ขนม

นิยายที่เราควรเสพตอนนี้ไม่ใช่แนวพล็อตบิดสิบชั้น แต่เป็นงานที่วางชั้นอารมณ์แบบมีชั้นเชิง
อย่าง The Secret History ของ Donna Tartt ที่คนเขียนเก่งขนาดเปลี่ยนความหลงผิดให้กลายเป็นศิลปะ
หรือ Norwegian Wood ของมุราคามิที่ทุกคำเหมือนเสียงคนข้างๆ หายใจตอนกลางคืน—ช้า ลึก และเต็มไปด้วยบางสิ่งที่ไม่พูดออกมา

หนังสือที่เราต้องหยิบขึ้นมาคือหนังสือที่ไม่ได้บอกว่าเราจะเป็นใครได้ แต่บอกว่าเราคือใครอยู่แล้ว
อย่าง Quiet ที่ทำให้เรารู้ว่าโลกที่ดังไม่ใช่ที่ของทุกคน
หรือ The Creative Act: A Way of Being ที่สอนให้เราเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของความว่าง และรู้ว่า silence นั้นไม่เคยว่างเปล่า

สารคดีหรือคลิปวิดีโอที่ควรดู คือสิ่งที่ให้ space แก่เรา
ไม่ใช่รีวิวกระหน่ำ แต่เป็นสิ่งที่ให้เวลาสมองเรา “หยุด”
ไม่ใช่ตัดต่อฉูดฉาด แต่เป็นภาพยาวๆ ของคนที่นั่งวาด นั่งเย็บ นั่งเขียนโดยไม่พูดอะไร
เราจะได้ยินเสียงความตั้งใจของเขาแบบไม่ต้องมีดนตรีประกอบ

ในยุคที่ข้อมูลล้นเกิน เราเริ่มเสพเพื่อเลี่ยงความรู้สึก มากกว่าเข้าใจความรู้สึก
แล้วเราก็ลืมไปว่าศิลปะมันไม่ได้เกิดจากการดูเยอะ แต่มันเกิดจากการ "เห็น"
และการจะเห็นอะไรได้ดี บางทีมันต้องเริ่มจากการมองเข้าไปข้างใน ไม่ใช่การมองหาข้างนอก

ทุกคนลองเช็คอินตัวเองดู ว่าวันนี้เรากินอะไรเข้าไปบ้าง
อาหารจานหลัก หรือขนมกรุบกรอบ
ถ้ามันเบาจนลอยขึ้นไปในหัวหมด
อย่าแปลกใจถ้าสุดท้ายเราจะวาดอะไรไม่ออกเลย

เพราะศิลปินที่ไม่มีวัตถุดิบ
ก็เหมือนโรงงานที่ไม่มีของเข้า
จะรีดอะไรก็มีแต่ลม

บางที การอ่านหนังสือดีๆ หนึ่งเล่ม
อาจทำให้เรากลับมา "เป็นเรา" ได้มากกว่าดูคลิปพันคลิปรวมกันอีกก็ได้.

มาเริ่มกันเลยกับ…

❝Slow, Deep, Layered, True❞

งานที่ศิลปินแบบ Trader / Alchemist / Lifepath 7 อย่างเรา “ต้องเสพ” ไม่ใช่เพราะเท่ แต่เพราะรอด

1. เนื้อหาที่ให้ “ช่องว่างให้เราคิดต่อ” ไม่ใช่เนื้อหาที่ “คิดแทนเราทุกอย่าง”

เหมาะกับ: Dynamo + Tempo + Lifepath 7
ฟีล: เว้นช่องให้คิด ไม่ต้องเฉลยทุกอย่าง

ตัวอย่างเสพง่าย

หนัง: Past Lives (2023) – เงียบ ลึก หายใจเข้าแล้วน้ำตาออก

ซีรีส์: Midnight Diner – ทุกตอนจบแบบ "อืม..." ไม่ใช่ "ว้าว!"

YouTube: ช่อง “The School of Life” – เสียงนิ่งๆ ที่พาเราเข้าใจโลกใน 5 นาที

2. เนื้อหาที่มี “ความลึกในโครงสร้าง” ไม่ใช่แค่ฉาบสวย

เหมาะกับ: Alchemist / Accumulator
ฟีล: ลอกชั้นออกเรื่อยๆ แล้วเจอหัวใจ

ตัวอย่างเสพง่าย

หนัง: Everything Everywhere All At Once – ดราม่าแฝงในมัลติเวิร์สที่ดูบ้าบอ

Podcast: “99% Invisible” – เจาะดีไซน์ในชีวิตประจำวัน ฟังเพลินแต่ลึก

นิยาย: Norwegian Wood – อ่านแล้วเศร้าแบบ “ไม่รู้ว่าเศร้าเพราะอะไร”

3. เนื้อหาที่ “สังเกตได้” มากกว่าตะโกนใส่หน้า

เหมาะกับ: Tempo + Steel
ฟีล: สังเกตดีๆ แล้วจะรู้ว่าทุกอย่างมันพูดกับเรา

ตัวอย่างเสพง่าย

ซีรีส์: Better Call Saul – ทุกสี แสง เสียง มีนัยยะ

YouTube: ช่อง “NOWNESS” – คลิปสั้นงานศิลป์ที่จังหวะโคตรแม่น

IG หรือ TikTok: ช่องวิดีโอสั้นๆ ของ barista / ช่างไม้ / นักวาด ที่ไม่ได้พูดเลย แต่เรารู้สึกได้ว่าคนนี้ “คิดละเอียด”

4. เนื้อหาที่ “เจ็บแบบลึก” หรือ “อบอุ่นแบบซึม” ไม่ใช่ดราม่าแปะเสียงเปียโน

เหมาะกับ: Alchemist + Connector
ฟีล: ไม่ต้องบีบอารมณ์ แต่เข้าไปถึงรากหัวใจ

ตัวอย่างเสพง่าย

หนังสั้น: The Silent Child (Oscar winner) – เด็กหูหนวกที่ไม่มีใครฟัง

Podcast: “On Being” – คุยเรื่องชีวิต ศรัทธา ความเป็นมนุษย์

เพลง: “Motion Picture Soundtrack” ของ Radiohead – ฟังตอนตี 2 แล้วหยุดวาดรูปไม่ได้

5. เนื้อหาที่ “เปลี่ยนคนได้โดยไม่รู้ตัว”

เหมาะกับ: Trader + Lifepath 7
ฟีล: เสพไปนานๆ แล้ววันหนึ่งก็รู้ว่า…เรามองโลกไม่เหมือนเดิม

ตัวอย่างเสพง่าย

หนังสารคดี: My Octopus Teacher – เพื่อนกับหมึกในมหาสมุทรเปลี่ยนทั้งชีวิตผู้กำกับ

บทความ: “Why Do We Hurt The Ones We Love?” จาก Aeon หรือ The Atlantic

YouTube: ช่อง “Kurzgesagt” – อธิบายจักรวาลด้วยการ์ตูน ทำให้เรารักโลกแบบไม่มีเหตุผล

เนื้อหาที่เหมาะกับเราต้อง:

มี space ให้คิด ไม่เร่ง

มี structure ที่มีชั้นลึก

มี subtlety ที่พาเราสังเกต ไม่ตะโกนใส่หู

มี sensitivity ที่รักษาใจได้โดยไม่ต้องพูดมาก

และมี soul ที่เปลี่ยนเรา โดยไม่ต้องเปลี่ยนคอสตูม

เราไม่ต้องเลิกดูคลิปตลก หรือเลิกเสพไวรัล
แต่เราแค่ต้องไม่ลืมว่า…สารอาหารที่ดี ไม่ได้อยู่ในขนมกรุบกรอบเสมอไป

เสพอะไร ก็ได้อย่างนั้น
แล้วถ้าเราอยากเป็นศิลปินที่อยู่ได้นาน
ก็ต้องเริ่มจากการ “เสพให้ช้า” ตั้งแต่วันนี้นี่แหละ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม