เราเคยเห็นเด็กคนนึงพยายามแก้โจทย์คณิตศาสตร์ แล้วหัวเราะทั้งน้ำตาเพราะคิดผิดซ้ำๆ ไหม?

เราเคยเห็นเด็กคนนึงพยายามแก้โจทย์คณิตศาสตร์ แล้วหัวเราะทั้งน้ำตาเพราะคิดผิดซ้ำๆ ไหม? เหมือนเห็นเขาพยายามยัดตัวเลขเข้ากับหัวใจตัวเอง แต่ทุกครั้งก็พลาด…เราก็ยืนดูอยู่ข้างๆ แล้วสงสัยว่า ทำไมความจริงที่ชัดเจนขนาดนี้ถึงไม่ปรากฏชัดตั้งแต่แรก

ทุกคนเคยสงสัยไหมว่าความรู้บางอย่าง เรา “เรียนรู้” จริงๆ หรือเรา “เคยรู้มาก่อน”? ไม่ใช่แค่จำได้ แต่รู้สึกว่า เออ มันต้องเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เรานึกถึง Plato กับ Meno—ที่เอาเด็กหนุ่มไร้การศึกษาเรื่องเลข มานั่งถามโจทย์ง่ายๆ แต่ลึกซึ้งว่า จะทำยังไงให้สี่เหลี่ยมเพิ่มพื้นที่เป็นสองเท่า

เด็กคนนั้นตอบไปแบบมั่นใจว่าต้องเพิ่มด้านเป็นสองเท่า…ผิดแบบสะใจ แต่พอ Socrates ค่อยๆ ชี้ทางด้วยคำถามทีละขั้น เด็กคนนั้นเริ่มมองเห็นความจริงเอง มันเหมือนมีสวิตช์ในใจถูกกดให้ตื่นขึ้น แล้วทุกอย่างก็ “จำได้เอง”

นี่แหละคือแก่นของเรื่อง: ความรู้บางอย่างไม่ได้อยู่ข้างนอก มันอยู่ในใจเรา แต่ต้องมีคนหรือสถานการณ์มากระตุ้นให้เราเห็นเอง

ถ้าเอามาโยงกับชีวิตจริง ทุกปัญหาที่เราพบ—จากตลาดหุ้นจนถึงการเจรจาดีลใหญ่ มันไม่ใช่แค่เรื่องหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ แต่มันคือการเรียกความสามารถที่อยู่ในตัวเองออกมาใช้ คนส่วนใหญ่พอเจอปัญหาซับซ้อนก็รีบไปหาคำตอบสำเร็จรูป เหมือนซื้อหุ้นตามข่าว อยากรวยเร็ว แต่ลืมว่าเรามีข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้ว แค่ต้องกล้าจับมันเอง

มาดูมุมจิตวิทยา การทำอะไรซ้ำซากโดยไม่รู้ตัว พฤติกรรมที่เรารู้ว่าพลาดแต่ก็ทำ มันเหมือนเราปิดกั้นตัวเองจากความรู้ที่ซ่อนอยู่ในใจ ความคิดแบบนี้ทำให้เราเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างเดียว แต่บางครั้งความจริงที่เราอยากรู้ มันอยู่ในตัวเราตั้งแต่แรก เพียงแต่ยังไม่ได้เอ่ยออกมา

ลองคิดแบบนี้: สมมติโจทย์สี่เหลี่ยมที่เราเจอในชีวิต เราไม่ต้องคิดสูตรใหม่ทุกครั้ง แต่ต้องถามตัวเองว่า “นี่คือสิ่งที่ฉันเคยรู้แล้ว แต่ยังไม่เห็นหรือเปล่า?” การถามตัวเองให้เจอ จะดีกว่าการวิ่งหาใครมาตอบ เพราะการรู้เอง มันฝังแน่นในใจและทำให้ตัดสินใจได้ชัดกว่า

ในพุทธศาสนา มีคำบาลีง่ายๆ ว่า “อหัง อัตตา นะมะหัง” แปลง่ายๆ ว่า ไม่มีอะไรเป็นตัวเราเองแท้จริง การเข้าใจสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเราเอง คือการรู้จักตัวเองจริงๆ ถ้าเรามัวแต่หาข้างนอก เราจะไม่เคยรู้ตัวเลยว่า ความรู้บางอย่างอยู่ในมือเราแล้ว

แล้วก็อย่าลืมในมิติของการสังเกตสังคม ทุกคนมักมองหาสูตรสำเร็จจากคนอื่น แต่คนที่เข้าใจตัวเองและกล้าเรียกความสามารถออกมา ใช้เวลาไม่นานก็สามารถคิดเก่งกว่าคนรอบตัวหลายก้าว ความรู้ที่ซ่อนอยู่ในใจมันพาเราไปได้ไกลกว่าที่คิด

สรุปสั้นๆ สำหรับทุกคน—บางครั้งสิ่งที่เราหาอยู่ไม่ได้อยู่ไกล แต่ซ่อนอยู่ในใจเราเอง แค่ต้องกล้าเงยหน้ามอง แล้วถามตัวเองให้เจอ และเมื่อเราจับทางถูกเอง ความรู้เหล่านั้นจะเป็นพลังที่ไม่มีใครหยุดได้

ชีวิตบางครั้งก็เหมือนโจทย์สี่เหลี่ยม ไม่ต้องเพิ่มด้านสองเท่าให้พลาดเอง แค่ใช้มุมเดิม คำนวณให้ชัด แล้วเราจะโตสองเท่าแบบไม่ต้องพยายามเกินตัว

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม